พิมพ์ปฏิทินตั้งโต๊ะ

[Hanako5]

พิมพ์ปฏิทินตั้งโต๊ะ
         ในอดีตกาลเมื่อมนุษย์ยังไม่รู้จัก การพิมพ์ปฏิทินจัดโต๊ะ การที่ดูวันที่เป็นนั้นมาจากรู้จักการดูดวงดาวเพื่อมองวันเดือนปี
ให้ง่ายดายมากยิ่งขึ้น แล้วก็เริ่มมีการสร้างเครื่องจับเวลา สร้างการจดบันทึกหรือวางแบบการดูดาวต่างๆเพื่อกระทำแบ่งฤดูกาล
แบ่งวันเดือนปีต่างๆการพิมพ์ปฏิทินจัดโต๊ะ ทำให้สามารถระบุออกมาเป็นตัวเลขได้อย่างเห็นได้ชัด ดำรงชีพประจำวันได้
ง่ายมากขึ้น ช่วยให้มีการจดจำเรื่องราวและก็ใช้เพื่อสำหรับในการเตือนความจำต่างๆก้าวหน้าอีกด้วย
พวกเราก็เลยพินิจได้ว่าสำหรับการพิมพ์ปฏิทินตั้งโต๊ะหรือรูปแบบของปฏิทินห้อยไทย มักจะมีการบอกกำกับถึงข้างขึ้น
ข้างแรมเพื่อสะท้อนให้มองเห็นถึงการดูพระจันทร์ที่พวกเราต้องใช้การพิมพ์ปฏิทินจัดโต๊ะไม่ได้บอกเพียงแค่การรับทราบวันเดือนปีได้เท่านั้น
แต่ว่าการจดจำวันทั้งปีก็ไม่ใช่เรื่องง่าย การออกแบบพิมพ์ปฏิทินตั้งโต๊ะแล้วก็นับวันให้ตรงกันทั่วทั้งโลก ก็เลยเป็นกระบวนการที่มนุษย์ใช้ร่วม
กัน แม้กระนั้นลักษณะของการนับวันที่ร่วมกันอย่างเป็นสากลสามารถช่วยเหลือกันระบุเพื่อกระทำการนัดแนะหรือกระทำการ
บอกวันในช่วงเวลาที่สำคัญได้ง่ายดายมากยิ่งกว่าเดิม การกำหนดปฏิทินอย่างเป็นสากลจึงมีความเกี่ยวเนื่องต่อยุคปัจจุบันนี้เป็นอย่างยิ่ง
การพิมพ์ปฏิทินตั้งโต๊ะ
ก่อนจะเป็นการพิมพ์ปฏิทินตั้งโต๊ะ การกำเนิดปฏิทินทีแรกของโลกมาจากชาวบาบิโลเนียน ซึ่งมีการย้อนรอย
กลับไปในตอนสมัยก่อนประวัติศาสตร์ โดยมาจากภาษาโรมันของชาวกรีกอดีตกาล ในยุคของชาวภาษากรีกโบราณนั้นยังไม่
มีการใช้การพิมพ์ปฏิทินตั้งโต๊ะ แต่คนสมัยก่อนมีการทำปฏิทินบอกวันเวลาขึ้นมา เมื่อถึงกำหนดเวลาจะมีคนที่ทำการร้องบอกวัน
เวลาขึ้น การบอกเวลาในยุคเก่ามีความสำคัญมากมายเพื่อเป็นการบอกการขึ้นวันเดือนใหม่เพื่อทราบถึงลูกหนี้ที่ยังมีการ
ค้างชำระของเจ้าหนี้อยู่ ภาษาอังกฤษเป็น "I Cry" ภาษาไทยหมายความว่า "การตะโกนบอก" ภาษาโรมันของชาวภาษากรีกโบราณกาล
เรียกว่า Kalend ภาษาอังกฤษจึงใช้คำว่า Calendar ในภาษาอังกฤษ
อย่างไรก็ตามการพิมพ์ปฏิทินตั้งโต๊ะมีประวัติความเก่าแก่สืบย้อนกลับไปถึงเรื่องราวของปฏิทินโลก ระยะเวลาของ
การพิมพ์ปฏิทินตั้งโต๊ะนั้นช้านานมีความเก่าแก่มานานมากกว่าพันปี โดยระบบการนับวันที่ตามชาวบาบิโลเนียนที่มีการ
ระบุวันเดือนปีขึ้นมาพินิจจากระยะต่างๆของพระจันทร์เกี่ยวกับการสังเกตข้างขึ้นข้างแรม ปัจจุบันนี้เราสามารถ
ตีความหมายนั้นได้ว่าเป็นรูปแบบของจำพวกปฏิทินจันทรคติ โดยเมื่อครบการกำหนดข้างขึ้นข้าแรมครบ 12 รอบจะเป็น
การครบฤดูกาลให้เวียนกลับมา
ปฏิทินของเมืองไทยได้ถูกเผยแพร่ขึ้นทีแรก 14 ม.ค. พ.ศ. 2385 ตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 3 ด้วยเหตุนี้ แต่ละวันที่ 14
เดือนมกราคมทุกปี มีการกำหนดให้เป็นวันที่มีความหมายเนื่องมาจากใช้ปฏิทินตีพิมพ์ขึ้นมาทีแรก เมืองไทยในยุคอดีตมี
การใช้ปฏิทินจันทรคติตั้งแต่ยุคสุโขทัยมีการนับเป็นปีตามมหาศักราชแล้วก็จุลศักราช ถัดมาในรัชสมัยรัชกาลที่ 3
พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวจึงได้มีการโปรดเกล้าจากแบบปฏิทินเดิมให้แปลงเป็นปฏิทินสุริยคติ มีต้นแบบ
การใช้มีความล้ำยุคลักษณะสากลตามปฏิทินเกเกลื่อนกลาดอเรียน สุดท้ายก็เลยมีการทำการพิมพ์ปฏิทินตั้งโต๊ะขึ้นเพื่อใช้งานนั้นเอง