5 นิสัยแย่ๆอย่าทำในสถานที่สำหรับทำงาน..หลายคนไม่รู้ตัว

[Joe524]

มากมายหลากหลายองค์กรให้คะแนนงานบุคลากรกันเป็นทุกปี แต่ว่าก็มีบางที่จัดกันปีละ 2 ครั้ง

เพื่อตรวจเช็คลักษณะการทำงานของพนักงาน รวมไปถึงความคิด


ซึ่งมิได้วัดออกมาเป็นระดับคะแนน หรือความพึงพอใจ จากการตอบคำถาม "ถูก" หรือ "ผิด" ที่สำคัญ


สิ่งที่ได้บอกออกไปในระหว่างการประมาณอาจจะสร้างสรรค์ หรือ ทำ ล า ย หน้าที่การงานได้อย่างยิ่งจริงๆ

แม้กระนั้นบางบริษัทเห็นว่าการประเมินผลงานที่จัดให้มีขึ้นเป็นประจำทุกปีเป็นเรื่องโบราณ

ด้วยเหตุว่านายควรจะประเมินเรื่องอื่นๆทั้งยังความสามารถในการทำงาน

การบริการลูกค้า ทีมเวิร์ก ไปจนกระทั่งทัศนคติ ทำให้หลากหลายองค์กรใช้ระบบการให้คำปรึกษาย้อนกลับมา

หรือฟีดแบ็กรวมถึงระบบการสอนงาน หรือโค้ชชิ่งแทน แต่ว่าไม่ว่าหน่วยงานจะใช้การประเมินแบบใด

สิ่งจำเป็นคือบุคลากรจำเป็นต้องสามารถสื่อ ส า ร ได้อย่างมีคุณภาพ


รวมทั้งมี 5 ประโยคที่ไม่ควรเอ่ยออกมา เนื่องจากสุ่มเสี่ยงที่จะเป็นผลลบมากกว่า


ซึ่ง cheatsheet.com เขียนถึงหัวข้อนี้ไว้อย่างน่าสนใจ

"นี่ไม่ใช่หน้าที่ของฉัน"

ประโยคนี้นอกเหนือจากที่จะทำให้เห็นว่า ผู้พูดจำเป็นต้องปรับแต่งมรรยาทไม่ให้พูดโผงผางออกมาแล้ว

ควรจะจดจำไว้ด้วยว่า การกำหนดหน้าที่งาน หรือ Job Description

ไม่ได้ครอบคลุมหน้าที่ที่จำเป็นต้องทำทั้งผอง 100% แถมยังจะต้องเปลี่ยนแปลงตามสภาพธุรกิจอีกด้วย

นายถูกใจพนักงานที่มีความยืดหยุ่น พร้อมรับมือกับงานหลายๆอย่าง

ด้วยทัศนคติเชิงบวก แต่ว่าถ้าอยากได้สะท้อนถึงความต้องการที่มากเกินความจำเป็นของนาย

ก็สามารถเลือกใช้ประโยคอื่นๆแทน เป็นต้นว่า "งานเดิมที่ระบุเส้น ต า ย เอาไว้

ทำให้ยังไม่มีช่องทางปฏิบัติภารกิจเพิ่ม" หรืออธิบายว่า

คุณไม่ควรรับผิดชอบงานส่วนนี้ เพราะเหตุว่ามีคนอื่นที่เหมาะสมอย่างยิ่งกว่า

"คุณมุ่งมาดจากฉันมากเกินความจำเป็น"

แน่ๆว่า ผู้ว่าจ้างย่อมมุ่งมาดหลายเรื่อง

ซึ่งอาจจะก่อให้พนักงานมีความรู้สึกว่าทำงานเกินค่าตอบแทนที่ได้รับ

แต่การป้องกันตนเองมากจนเกินความจำเป็นก็บางครั้งก็อาจจะไม่ใช่วิธีที่เยี่ยมที่สุด


ฉะนั้น การงดเว้นทนและควบคุมอารมณ์เป็นโอกาสที่เหมาะสมที่สุด ไม่ว่าคุณจะรู้สึกอะไร

ด้วยเหตุว่าการแสดงอารมณ์ออกมาบางทีอาจไม่ได้ทำให้อะไรดียิ่งขึ้น

"ฉันทำไม่ได้"

การพูดว่า "ทำไม่ได้" เป็นข้อจำกัด ซึ่งนอกเหนือจากผู้พูดจะให้ความหมายคิดของตนเอง

เกี่ยวกับสิ่งที่ตัวเราเองสามารถทำได้แล้ว ยังนิยามคิดของคนอื่นๆ

รวมถึงเจ้านายเกี่ยวกับความสามารถของผู้พูดด้วย

การพูดประโยคนี้พอๆกับบอกนายจ้างว่า คุณขาดทักษะที่จะทำงานให้เสร็จได้

รวมทั้งถ้าหากตอบสั้นๆก็บางทีอาจแปลได้ว่า คุณไม่เพียรพยายามจะศึกษา ซึ่งจะส่งผลเสียเข้าไปอีก

ด้วยเหตุนี้จำเป็นจะต้องหลีกเลี่ยงไปใช้คำพูดอื่นๆยกตัวอย่างเช่น "พวกเราจะทดลองทำเช่นไรดี"

หรือ "นี่เป็นข้อแนะนำที่ดี มอบโอกาสฉันได้มีส่วนร่วมที่จะทำให้เสร็จด้วยคน"

ซึ่งจะเปิดทางให้สามารถหาแผนที่เหมาะสมกับตนเองได้

"ขอบคุณมากที่มองเห็นสุดท้าย"

การได้รับคำชื่นชมสำหรับการวัดผลงานนับเป็นความเสร็จในหน้าที่การงานขั้นเล็กๆ

แม้กระนั้นก็ไม่ควรหลงระเริงกับคำกล่าวชมเชยนั้น ถ้าหากไม่สามารถที่จะต่อกรเจริญพอเพียง อาทิเช่น การกล่าวคำจำพวกว่า

"ขอบคุณที่มองเห็นสุดท้าย" จะทำให้บรรยากาศกลับอึดอัด

และก็อาจจะส่งผลให้นายไม่ยกย่องคุณอีกในอนาคต เพียงแค่ขอบคุณมาก

หรืออธิบายถึงความบากบั่นที่เป็นเวลานานกว่าจะเสร็จก็น่าจะเพียงพอแล้ว

"มิได้ขี้เกียจนะ ก็แค่ไม่แคร์เพียงเท่านั้น"

นี่เป็นประโยคเด็ดจากภาพยนตร์เรื่อง "ออฟฟิศ สเปซ" แม้กระนั้นหากผู้ว่าจ้างไม่ได้รู้จัก

เหตุการณ์หลังกล่าวประโยคนี้ก็จะเชิญอึดอัด โดยยิ่งไปกว่านั้นเมื่อนายมองหน้าเพื่อ

ให้ชี้แจงถึงคำกล่าวดังที่กล่าวผ่านมาแล้วที่แสดงถึงความรู้สึกไม่ถูกใจ

ทราบเคล็ดลับ 5 ประโยคที่ห้ามพูดแล้ว ก็ทุ่มเทดำเนินงานให้สุดกำลัง

เวลาประเมินผลงานจะได้เปิดใจกับหัวหน้ากันแบบบันเทิงใจ

เผื่อได้ปรับเงินเดือนสูงขึ้น แถมด้วยตำแหน่งใหม่ๆก็ได้ ผู้ใดกันแน่จะไปรู้!
ที่ทำงาน
ขอบคุณบทความจาก https://freelydays.com/13385/