• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซต์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Messages - Lali

#1


ออฟฟิศให้เช่าตกแต่งแล้ว เหมาะกับใคร? พร้อมใช้งานทันที
ออฟฟิศให้เช่าตกแต่งแล้ว กำลังได้รับความนิยมในกลุ่มผู้ประกอบการที่ต้องการพื้นที่ทำงานพร้อมใช้งาน ไม่ต้องเสียเวลาในการจัดตกแต่งเอง เหมาะกับทั้งสตาร์ทอัพ องค์กรขนาดใหญ่ และฟรีแลนซ์ที่มองหาพื้นที่มืออาชีพ
หากคุณกำลังมองหา ออฟฟิศให้เช่า ย่านอารีย์ ที่ผสมผสานทั้งทำเลดี การเดินทางสะดวก และสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน แนะนำ TIPCO TOWER อาคารสำนักงานเกรด A ที่ตอบโจทย์ธุรกิจยุคใหม่ได้อย่างครบถ้วน

ถ้าอยากทราบว่า ออฟฟิศให้เช่าตกแต่งแล้ว เหมาะกับใคร? พร้อมใช้งานทันที อ่านต่อคลิก



ออฟฟิศให้เช่าตกแต่งแล้ว ดียังไง?
1. ทำเลศักยภาพ เดินทางสะดวก
ออฟฟิศให้เช่าตกแต่งแล้วมักตั้งอยู่ในทำเลใจกลางเมืองหรือย่านธุรกิจใหม่อย่างอารีย์ เชื่อมต่อ BTS–MRT ใกล้แหล่งกิน เที่ยว ใช้ชีวิต สะดวกทั้งพนักงานและลูกค้า

2. พื้นที่ยืดหยุ่น รองรับการเติบโต
ขยายพื้นที่ได้ง่าย เชื่อมชั้น เชื่อมทีม เหมาะกับธุรกิจที่กำลังเติบโต ลดภาระการย้ายออฟฟิศในอนาคต

3. พร้อมใช้งานทันที
ไม่ต้องเสียเวลาก่อสร้างหรือตกแต่ง เข้าใช้งานได้รวดเร็ว เหมาะกับสตาร์ทอัพหรือโปรเจกต์ที่ต้องการความคล่องตัวสูง





4. ควบคุมงบได้ชัดเจน
เช่าออฟฟิศตกแต่งแล้ว ช่วยลดค่าใช้จ่ายแฝง เช่น เฟอร์นิเจอร์ ระบบไฟฟ้า หรือของตกแต่งจิปาถะ ไม่ต้องเสียเวลาและงบเกินแผน

5. สิ่งอำนวยความสะดวกครบ
อาคารมักจัดเตรียมระบบพื้นฐานไว้พร้อม ทั้งเฟอร์นิเจอร์ ระบบไฟ สายสื่อสาร ฯลฯ ช่วยประหยัดทั้งเงินและเวลา ไม่ต้องจัดการเอง

6. บรรยากาศที่เอื้อต่อการทำงาน
การออกแบบออฟฟิศทันสมัย ใช้แสงธรรมชาติ มีพื้นที่พักผ่อน ร้านค้า และฟิตเนส ช่วยสร้างแรงบันดาลใจ เพิ่มประสิทธิภาพ และคุณภาพชีวิตทีมงาน




ทำไมออฟฟิศให้เช่าตกแต่งแล้วถึงคุ้มค่ากับการลงทุน?

ออฟฟิศให้เช่าตกแต่งแล้ว เป็นทางเลือกที่คุ้มค่าสำหรับทุกธุรกิจ ทั้งเริ่มต้นและขยาย ด้วยความพร้อมใช้งาน ทำเลสะดวก และควบคุมงบประมาณได้ง่าย
แนะนำ TIPCO TOWER ออฟฟิศให้เช่า Grade A ย่านอารีย์ ใกล้ BTS–MRT พร้อม Shuttle Service ตกแต่งครบ เข้าใช้งานได้ทันที รองรับการขยายพื้นที่ในอนาคต พร้อมบรรยากาศพรีเมียม และดีไซน์โดยทีมออกแบบชั้นนำ

ทำไมถึงต้องเลือก ออฟฟิศให้เช่าตกแต่งแล้ว ที่นี่มีคำตอบ!! อ่านต่อคลิก


สนใจเช่าสำนักงานกับ TIPCO TOWER ติดต่อเรา

#2


ออฟฟิศให้เช่า อารีย์ ดีอย่างไร? ทำเลทองสำหรับธุรกิจของคุณ
อารีย์ ทำเลศักยภาพที่กำลังมาแรง ย่านศูนย์กลางธุรกิจใหม่ที่ตอบโจทย์ทั้งทำเล ไลฟ์สไตล์ และภาพลักษณ์องค์กร ใครกำลังมองหาออฟฟิศให้เช่าในย่านนี้ ห้ามพลาด! เพราะเรารวมเหตุผลว่าทำไมอารีย์ถึงเหมาะกับธุรกิจยุคใหม่ พร้อมแนะนำตึก TIPCO TOWER ออฟฟิศให้เช่าใกล้อารีย์ ที่ครบทั้งฟังก์ชันและความสะดวก

อ่านบทความเต็มคลิกที่



เหตุผลที่ออฟฟิศให้เช่าในอารีย์ได้รับความนิยม
ย่านอารีย์ หนึ่งในทำเลที่ลงตัวที่สุดสำหรับการทำงานและไลฟ์สไตล์ ศูนย์รวมออฟฟิศ คาเฟ่ ร้านอาหาร และแหล่งไลฟ์สไตล์ที่ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ การเลือกออฟฟิศให้เช่าย่านนี้ ไม่ใช่แค่ได้ทำเลดี แต่ยังช่วยสร้างโอกาสใหม่ๆ ให้ธุรกิจเติบโต




ข้อดีของออฟฟิศให้เช่าในย่านอารีย์

1. เดินทางสะดวก ใกล้ BTS อารีย์
เชื่อมต่อถนนสายหลัก ใกล้สาทร สีลม สุขุมวิท เดินทางง่ายทั้งรถส่วนตัวและรถไฟฟ้า

2. สิ่งอำนวยความสะดวกครบ
ร้านอาหาร คาเฟ่ ศูนย์การค้า โรงพยาบาล และคอนโด ใกล้ที่ทำงาน เพิ่มคุณภาพชีวิตทั้งพนักงานและลูกค้า

3. ค่าเช่าสมเหตุสมผล
เริ่มต้นประมาณ 700-1,000 บาท/ตร.ม. ถูกกว่าย่าน CBD แต่ยังได้ทำเลดีและสิ่งอำนวยความสะดวกครบ

4. บรรยากาศเหมาะกับการทำงาน
สงบ เป็นส่วนตัว รายล้อมด้วยพื้นที่สีเขียว ช่วยลดความเครียด กระตุ้นความคิดสร้างสรรค์

5. ภาพลักษณ์ทันสมัย ดึงดูดคนรุ่นใหม่
ไลฟ์สไตล์ครบ คาเฟ่เก๋ ร้านอาหารชิค รองรับไลฟ์สไตล์คนทำงานยุคใหม่ เพิ่มความน่าอยู่และน่าทำงาน




ออฟฟิศให้เช่า ย่านอารีย์ ที่ตอบโจทย์ทุกธุรกิจ ครบทั้งทำเลดี พื้นที่ยืดหยุ่น พร้อมเข้าอยู่
แนะนำ TIPCO TOWER ออฟฟิศให้เช่า Grade A ใกล้ BTS อารีย์ ใกล้ทางด่วน พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกจัดเต็ม
1. พื้นที่เริ่มต้น 100 ตร.ม.
2. มี Shuttle Service รับ-ส่ง BTS
3. ระบบความปลอดภัย 24 ชม.
4. ห้องประชุมใหญ่ รองรับกว่า 200 คน
5. ฟิตเนส สระว่ายน้ำ คลินิก ร้านค้า คาเฟ่ครบ

ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์คนทำงานยุคใหม่ครบจบในที่เดียว

ออฟฟิศให้เช่า อารีย์ ดีอย่างไร? ทำเลทองสำหรับธุรกิจของคุณ อ่านต่อคลิก


สนใจเช่าสำนักงานกับ TIPCO TOWER ติดต่อเรา

#3


การขายของออนไลน์เติบโตอย่างรวดเร็วทำให้ธุรกิจต้องการเครื่องมือที่ช่วยจัดการงานบัญชีได้ง่ายและมีประสิทธิภาพ นริทร์ทองได้รวบรวม โปรแกรมบัญชีชั้นนำ ที่ช่วยให้ผู้ขายออนไลน์ทำงานได้สะดวกขึ้น พร้อมข้อดีของแต่ละตัวดังนี้:





ข้อดีของการใช้โปรแกรมบัญชีขายของออนไลน์
เชื่อมต่อแพลตฟอร์มขายของออนไลน์ได้รองรับการเชื่อมต่อกับ Shopee, Lazada, Facebook และเว็บไซต์ E-commerce ดึงข้อมูลการขายเข้าสู่ระบบอัตโนมัติ ลดขั้นตอนซ้ำซ้อน
จัดการสต็อกสินค้าและรายรับ-รายจ่ายติดตามจำนวนสินค้า แจ้งเตือนเมื่อสต็อกใกล้หมด คำนวณต้นทุน บันทึกรายรับ-รายจ่ายได้แม่นยำ ลดความผิดพลาด
คำนวณภาษีและออกเอกสารสำคัญช่วยคำนวณ VAT และภาษีหัก ณ ที่จ่าย พร้อมออกใบกำกับภาษี ใบเสร็จรับเงิน และรายงานภาษีต่าง ๆ
ลดข้อผิดพลาดและส่งต่องานได้รวดเร็วระบบอัตโนมัติช่วยลดความผิดพลาดในการบันทึกข้อมูลและส่งข้อมูลให้สำนักงานบัญชีได้ง่ายผ่านระบบ Cloud

โปรแกรมบัญชีขายของออนไลน์แนะนำ

1. FlowAccount

จัดการเอกสารและสต็อกสินค้า: ออกใบเสนอราคา ใบกำกับภาษี ใบเสร็จรับเงิน

เชื่อมต่อแพลตฟอร์มออนไลน์: รองรับ Shopee, Lazada, TikTok Shop ดึงข้อมูลยอดขายอัตโนมัติ

ใช้งานบนมือถือ: มี MobilePOS จัดการการขายและบัญชีได้ทุกที่

เก็บข้อมูลบนคลาวด์: ปลอดภัย เข้าถึงได้จากทุกที่

ทดลองใช้งานฟรี: มีแพ็กเกจฟรีให้ลองใช้งานก่อนตัดสินใจ

2. Peak Account

เชื่อมต่อการขายออนไลน์: รองรับ Shopee, Lazada, Page 365

จัดการเอกสารและสต็อก: ออกใบแจ้งหนี้ ใบกำกับภาษี บันทึกการชำระเงิน พร้อมแจ้งเตือนเมื่อสต็อกต่ำ

รายงานการขาย: ติดตามยอดขายและวิเคราะห์กำไรได้ง่าย

3. AccCloud

เชื่อมต่อแพลตฟอร์ม e-commerce: รองรับ Lazada, Shopee ดึงข้อมูลยอดขายและอัปเดตสต็อกแบบเรียลไทม์

รวมข้อมูลหลายร้านค้า: รองรับร้านค้าหลายแห่ง สรุปยอดคำสั่งซื้อเข้าระบบบัญชี

วิเคราะห์ข้อมูลลูกค้า: ติดตามประวัติการซื้อเพื่อปรับกลยุทธ์การขาย

4. SMEMOVE

จัดการเอกสารและสต็อก: ออกใบแจ้งหนี้ บันทึกการชำระเงิน พร้อมรายงานกราฟ

รองรับหลายสกุลเงิน: เหมาะกับธุรกิจที่มีการทำธุรกรรมต่างประเทศ

มีระบบ POS: รองรับเครื่องสแกนบาร์โค้ด ใช้งานง่าย ราคาประหยัด

โปรแกรมบัญชีเหล่านี้ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดการธุรกิจออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็นการเชื่อมต่อการขายอัตโนมัติ การคำนวณภาษี และการออกเอกสารสำคัญ ลดข้อผิดพลาดและประหยัดเวลา สำหรับใครที่เพิ่งเริ่มต้นขายออนไลน์ แนะนำให้ลอง FlowAccount และ Peak Account เพราะใช้งานง่ายและมีวิดีโอสอน

หากคุณกำลังมองหาที่ปรึกษาทางด้านบัญชีและภาษี บริษัท นริทร์ทอง จำกัด ให้บริการ รับทำบัญชี และ จัดทำงบการเงิน โดยทีมผู้เชี่ยวชาญประสบการณ์กว่า 20 ปี พร้อมบริการหลากหลาย เช่น

ยื่นภาษีอากร ดูแลการจัดเตรียมเอกสาร รับจดทะเบียนบริษัท สร้างความน่าเชื่อถือ ดำเนินงานด้านการเงิน ยื่นเงินเดือน ประกันสังคม รับทำบัญชีครบวงจร ลดความผิดพลาด

ติดต่อเรา:
Facebook: NarinthongOfficial
E-mail: narinthong.ac@gmail.com
Line: @Narinthong
Tel: 081-627-6872, 02-404-2339



#4
หัวข้อ : เปิดบริษัทไม่มีพนักงานได้ไหม?

หลายคนฝันอยากเปิดบริษัทของตัวเอง แต่ติดตรงที่ยังไม่มีพนักงาน คำถามคือ "เปิดบริษัทไม่มีพนักงานได้ไหม?" คำตอบคือ ทำได้แน่นอน และยังถูกต้องตามกฎหมายในประเทศไทยอีกด้วย วันนี้เราจะมาเจาะลึกขั้นตอนและข้อควรรู้ในการเปิดบริษัทแบบ "ฉายเดี่ยว" พร้อมวิธีบริหารธุรกิจให้รอดและโตไว

หัวข้อย่อย : เปิดบริษัทไม่มีพนักงาน ทำได้จริงไหม?

ตามกฎหมายไทย บริษัทต้องมีผู้ถือหุ้นอย่างน้อย 2 คน เพื่อให้สถานะบริษัทสมบูรณ์ แต่ในส่วนของการจ้างพนักงาน ไม่มีกฎหมายบังคับ ว่าต้องมีพนักงานตั้งแต่เริ่มต้น ผู้ประกอบการสามารถเป็นทั้งเจ้าของ กรรมการ และคนดำเนินงานเองได้เลย

กรณีตัวอย่าง: หากคุณทำธุรกิจขายสินค้าออนไลน์ หรือเป็นฟรีแลนซ์สายบริการ เช่น ออกแบบเว็บไซต์ รับทำการตลาด คุณก็สามารถจดทะเบียนบริษัทโดยไม่มีลูกจ้างได้ทันที

หากสนใจเริ่มต้นธุรกิจแบบไม่มีพนักงาน ลองดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ นรินทร์ทอง

หัวข้อย่อย : เมื่อเริ่มจ้างพนักงาน ต้องทำอะไรบ้าง

ขึ้นทะเบียนนายจ้างกับสำนักงานประกันสังคม

ต้องยื่นเอกสารภายใน 30 วันหลังมีการจ้างงาน เช่น สำเนาบัตรประชาชนกรรมการ หนังสือรับรองบริษัท ฯลฯ

ขึ้นทะเบียนลูกจ้างและเข้าประกันสังคม

ต้องยื่นแบบ สปส.1-03 และหักเงินสมทบประกันสังคม 5% จากเงินเดือนพนักงาน (สูงสุด 750 บาท)

จัดทำบัญชีเงินเดือน

คำนวณเงินเดือน พร้อมรายการหัก เช่น ภาษี ณ ที่จ่าย ค่าล่วงเวลา และทำสลิปเงินเดือน

ยื่นภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย (ภ.ง.ด.1)

นำส่งภาษีทุกเดือน ภายในวันที่ 7 ของเดือนถัดไป

เคล็ดลับบริหารบริษัทคนเดียวให้เติบโต

จ้าง Outsource แทนการจ้างพนักงานประจำ: ลดต้นทุน ควบคุมงานได้ เช่น บัญชี การตลาด

ใช้ระบบอัตโนมัติ (Automation): ช่วยประหยัดแรง เช่น ระบบจัดการออเดอร์ ระบบตอบแชท

วางแผนขยายทีมล่วงหน้า: เมื่อธุรกิจโตถึงจุดที่ดูแลเองไม่ไหว ให้เตรียมจ้างพนักงานทันที

สรุป: เปิดบริษัทไม่มีพนักงาน ได้ไหม? ได้ 100%

การเปิดบริษัทโดยไม่มีพนักงานนั้น ทำได้ตามกฎหมาย และเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับธุรกิจขนาดเล็กหรือคนที่อยากเริ่มต้นเองก่อน หากธุรกิจไปได้สวยและต้องจ้างทีมงาน ก็แค่ทำตามขั้นตอนทางกฎหมายเพิ่มเติมเท่านั้นเอง

อยากเปิดบริษัทแบบง่ายๆ แม้ไม่มีพนักงาน?
นรินทร์ทอง ช่วยคุณได้! เรารับจดทะเบียนบริษัท บริการบัญชี และให้คำปรึกษาทางภาษีโดยทีมงานมืออาชีพ ประสบการณ์กว่า 20 ปี ให้คุณโฟกัสที่การทำธุรกิจได้เต็มที่

สอบถามเพิ่มเติมคลิกที่นี่

#เปิดบริษัทไม่มีพนักงาน #จดทะเบียนบริษัท #ธุรกิจคนเดียว #นรินทร์ทอง #ที่ปรึกษาบัญชี
#5
จดทะเบียนบริษัทคนเดียว ทำได้ไหม?



ปัจจุบันการจดทะเบียนบริษัทในไทยยังคงต้องมีผู้ถือหุ้นอย่างน้อย 2 คน ตามกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ดังนั้นการจดทะเบียนบริษัทคนเดียว แบบถูกกฎหมายยังไม่สามารถทำได้ อย่างไรก็ตาม หากมีการเปลี่ยนแปลงกฎหมายในอนาคต อาจมีโอกาสที่เจ้าของธุรกิจจะสามารถจดทะเบียนบริษัทคนเดียวได้

บริษัทคนเดียว คืออะไร?



บริษัทคนเดียวคือบริษัทที่มีผู้ถือหุ้นเพียงคนเดียว ซึ่งในหลายประเทศเป็นแนวทางที่ช่วยให้เจ้าของกิจการบริหารได้อย่างอิสระ คล่องตัว และไม่ต้องพึ่งพาหุ้นส่วน อย่างไรก็ตาม กฎหมายไทยยังไม่รองรับรูปแบบนี้โดยตรง

ความแตกต่างระหว่างบริษัทคนเดียวกับบริษัทจำกัด



 บริษัทคนเดียว

- เจ้าของสามารถตัดสินใจได้ทันที ไม่ต้องผ่านการประชุมผู้ถือหุ้น ทำให้ธุรกิจเดินหน้าได้รวดเร็ว

- มีข้อจำกัดเรื่องการขยายกิจการและการระดมทุน

บริษัทจำกัด

- มีผู้ถือหุ้นตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป ช่วยกระจายความเสี่ยง

- ดึงดูดนักลงทุนได้ง่ายขึ้น แม้กระบวนการตัดสินใจอาจซับซ้อนกว่า

ทำไมต้องเลือกใช้บริการกับ นรินทร์ทอง?

สำหรับผู้ประกอบการที่กำลังมองหาบริการพร้อมให้คำปรึกษาครบวงจรโดยทีมงานมืออาชีพ

ติดต่อเราได้ที่:

โทร: 081-627-6872, 02-404-2339

Line: @Narinthong

เว็บไซต์: narinthong

นรินทร์ทอง — ดูแลครบ จดทะเบียนง่าย ทำบัญชีมั่นใจ ในที่เดียว!



#6


วิธีเลือก ออฟฟิศให้เช่า ให้เหมาะกับสไตล์การทำงานในยุคใหม่
การเลือกออฟฟิศให้เช่าคือการลงทุนที่สำคัญในยุคใหม่ ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างประสิทธิภาพและสภาพแวดล้อมที่กระตุ้นการทำงานร่วมกัน TIPCO TOWER นำเสนอออฟฟิศที่ตอบโจทย์ทุกสไตล์การทำงาน ด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ช่วยให้ทีมงานมีแรงจูงใจและพร้อมพัฒนาต่อไป




ปัจจัยที่ต้องคำนึงถึงเมื่อต้องการเลือก ที่ตั้งสำนักงาน ออฟฟิศให้เช่า

1. การเลือกทำเลที่ตั้ง สำนักงานให้เช่า
เลือกทำเลที่ใกล้ระบบขนส่งสาธารณะ เช่น BTS หรือ MRT และทางด่วน รวมถึงสิ่งอำนวยความสะดวกเช่น ร้านอาหารและบริการต่างๆ เพื่อความสะดวกของพนักงานและลูกค้า
2. การเลือกขนาดและการจัดสรรพื้นที่ให้เหมาะสม
พิจารณาพื้นที่ที่เหมาะสมกับจำนวนพนักงานและการใช้งานต่างๆ ภายในองค์กร
ราคา: เปรียบเทียบราคาและค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม เช่น ค่าน้ำ ค่าไฟ และค่าบริการต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้น

3. เปรียบเทียบราคา สำนักงานให้เช่า เพื่อความคุ้มค่าที่สุด
เปรียบเทียบราคาและค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม เช่น ค่าน้ำ ค่าไฟ และค่าบริการต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้น

4. สิ่งอำนวยความสะดวกและการตกแต่งตามสไตล์ที่ชอบ
ตรวจสอบสิ่งอำนวยความสะดวกที่มีให้ เช่น อินเทอร์เน็ตความเร็วสูง ลิฟต์ ที่จอดรถ รวมทั้งสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการทำงาน



5. ความปลอดภัยของออฟฟิศ
สำนักงานควรมีระบบความปลอดภัยที่เข้มงวด เช่น กล้องวงจรปิด ระบบควบคุมการเข้า-ออก และระบบแจ้งเตือนไฟไหม้


6. การดูแลและการบริการที่ตอบโจทย์
เลือกสำนักงานที่มีบริการครบวงจร อาทิ บริการทำความสะอาด และการบำรุงรักษาอุปกรณ์ภายใน


7. การเชื่อมต่อเทคโนโลยีที่ทันสมัย
สำนักงานควรรองรับเครือข่ายอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงและมีระบบควบคุมอาคารอัจฉริยะ


8. บรรยากาศและสิ่งแวดล้อม
พื้นที่สีเขียวภายในและรอบสำนักงานส่งเสริมบรรยากาศที่ดีและสุขภาพจิตของพนักงาน



สำหรับใครที่กำลังหาออฟฟิศให้เช่า TIPCO TOWER เป็นอีกหนึ่งตัวเลือก ที่เหมาะกับธุรกิจยุคใหม่ ไม่ว่าจะเป็น
TIPCO TOWER นำเสนอสำนักงานให้เช่าที่ตอบสนองทุกความต้องการ:
1. ทำเลที่ตั้ง: ใกล้ BTS อารีย์, MRT บางซื่อ, และทางด่วนพระราม 6
2. พื้นที่: เริ่มต้น 100 ตารางเมตร, มีหลากหลายขนาด
3. ราคา: 700 บาท/ตร.ม., คุ้มค่าเมื่อเทียบกับย่านศูนย์กลางธุรกิจ
4. สิ่งอำนวยความสะดวก: ฟิตเนส, สระว่ายน้ำ, ห้องประชุม, ที่จอดรถ, และร้านอาหาร
5. ความปลอดภัย: ระบบควบคุมการเข้า-ออก, กล้องวงจรปิด, และเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง
6. บริการ: ทำความสะอาด, บำรุงรักษาระบบไฟฟ้าและเครื่องปรับอากาศ
7. เทคโนโลยี: ระบบโทรศัพท์ภายในองค์กร, อินเทอร์เน็ต Fiber Optic และ 5G
8. สิ่งแวดล้อม: ล้อมรอบด้วยพื้นที่สีเขียว, ใกล้สวนจตุจักร, ส่งเสริมการทำงานแบบ Work-Life Balance



สนใจเช่าสำนักงานกับ TIPCO TOWER ติดต่อเรา

#7
การบริหารบัญชีโรงแรม: ปัจจัยสำคัญที่ผู้ประกอบการต้องรู้ 




ธุรกิจโรงแรมเป็นอุตสาหกรรมที่มีความซับซ้อนในด้านการจัดการบัญชี เนื่องจากมีรายได้และค่าใช้จ่ายที่หลากหลาย เช่น ค่าห้องพัก ค่าอาหาร ค่าใช้จ่ายด้านบริการ และต้นทุนดำเนินงานอื่น ๆ การบริหารบัญชีที่มีประสิทธิภาพช่วยให้ธุรกิจควบคุมต้นทุน ลดความเสี่ยงทางการเงิน และปฏิบัติตามข้อกำหนดทางกฎหมายได้อย่างถูกต้อง อ่านต่อเพื่อดูแนวทางสำคัญเกี่ยวกับ บัญชีโรงแรม ที่คุณไม่ควรพลาด 

รายได้ของธุรกิจโรงแรม 

โรงแรมมีแหล่งที่มาของรายได้ที่หลากหลาย ซึ่งสามารถแบ่งออกเป็นประเภทหลัก ๆ ได้แก่: 
- รายได้จากค่าห้องพัก เช่น ค่าห้อง ค่าธรรมเนียมเตียงเสริม 
- รายได้จากอาหารและเครื่องดื่ม รวมถึงบริการรูมเซอร์วิสและบุฟเฟ่ต์ 
- รายได้จากการจัดประชุมและอีเวนต์ เช่น งานแต่งงาน งานสัมมนา 
- รายได้จากบริการสปา ฟิตเนส และกิจกรรมเสริมอื่น ๆ 

การทำบัญชีที่ถูกต้องควรแยกรายได้แต่ละประเภทให้ชัดเจน เพื่อช่วยให้การบริหารจัดการทางการเงินเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ หากต้องการรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวอย่างการคำนวณและการบันทึกบัญชีของธุรกิจโรงแรม อ่านต่อได้ที่ Narinthong 

ส่วนหนึ่งของเนื้อหาการบริหารบัญชีโรงแรม 
หลักการบันทึกค่ามัดจำของโรงแรม 



ค่ามัดจำเป็นหนึ่งในประเด็นที่เจ้าของโรงแรมควรให้ความสำคัญ เนื่องจากถือเป็น "หนี้สินหมุนเวียน" จนกว่าลูกค้าจะเข้าพักจริง ตัวอย่างการบันทึกบัญชี: 
- กรณีรับค่ามัดจำก่อนวันเข้าพัก บันทึกเป็น "หนี้สิน" 
- เมื่อลูกค้าเข้าพักจริง นำค่ามัดจำไปหักจากค่าห้องพัก และบันทึกเป็น "รายได้" 
- กรณียกเลิกการจอง หากต้องคืนเงิน บันทึกเป็นการตัดหนี้สิน แต่หากไม่คืนเงิน บันทึกเป็นรายได้ค่าปรับ 

การบันทึกค่ามัดจำให้ถูกต้องช่วยให้บัญชีมีความโปร่งใส และลดปัญหาทางภาษี ดูตัวอย่างการบันทึกบัญชีค่ามัดจำเพิ่มเติมได้ที่ ลิงก์นี้ 

ต้องการคำแนะนำเฉพาะทาง? 
บริษัท นรินทร์ทอง จำกัด สำนักงาน รับทำบัญชี และจัดทำงบการเงิน โดยผู้เชี่ยวชาญทางด้านบัญชีและภาษี ด้วยประสบการณ์ที่ให้บริการมากกว่า 20 ปี 

สำหรับใครที่ต้องการปรึกษาสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่... 
Facebook: NarinthongOfficial 
E-mail: narinthong.ac@gmail.com 
Line: @Narinthong 
Tel: 081-627-6872 , 02-404-2339 


#8

ภาษีที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจโรงแรม: สิ่งที่ผู้ประกอบการต้องรู้ 


ธุรกิจโรงแรมในประเทศไทยเติบโตอย่างต่อเนื่อง แต่เจ้าของกิจการต้องบริหารจัดการภาษีอย่างถูกต้อง เพื่อลดต้นทุนและป้องกันปัญหาทางกฎหมาย ในบทความนี้เราจะสรุปข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับ ภาษีที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจโรงแรม พร้อมแนวทางการวางแผนภาษีที่มีประสิทธิภาพ 

ประเภทของภาษีที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจโรงแรม 

1. ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา 
หากโรงแรมดำเนินการในนามบุคคลธรรมดา เจ้าของต้องยื่นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาตามประมวลรัษฎากร ในหมวดเงินได้ประเภทที่ 8 (มาตรา 40( 8 )) โดยสามารถเลือกวิธีหักค่าใช้จ่ายได้ 2 วิธี:

  • หักค่าใช้จ่ายแบบเหมา: หักได้ 60% ของรายได้
  • หักค่าใช้จ่ายตามจริง: ต้องมีเอกสารหลักฐานรองรับ
ภาษีต้องยื่นปีละ 2 ครั้ง:

  • ภาษีครึ่งปี (ภ.ง.ด.94): ยื่นภายในเดือนกันยายน
  • ภาษีสิ้นปี (ภ.ง.ด.90): ยื่นภายในเดือนมีนาคมของปีถัดไป
2. ภาษีเงินได้นิติบุคคล 
หากโรงแรมจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล เช่น บริษัทหรือห้างหุ้นส่วน จะต้องเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลในอัตรา 20% ของกำไรสุทธิ โดยต้องยื่นภาษี 2 ครั้งต่อปี:

  • ภาษีครึ่งปี (ภ.ง.ด.51): ยื่นภายใน 2 เดือนหลังจากสิ้นสุดครึ่งปีแรกของรอบบัญชี
  • ภาษีสิ้นปี (ภ.ง.ด.50): ยื่นภายใน 150 วันหลังจากสิ้นสุดรอบบัญชี
[imghttps://www.narinthong.com/wp-content/uploads/2025/03/%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%A9%E0%B8%B5%E0%B9%82%E0%B8%A3%E0%B8%87%E0%B9%81%E0%B8%A3%E0%B8%A13-768x768.png[/img]

3. ภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) 
หากโรงแรมมีรายได้เกิน 1.8 ล้านบาทต่อปี ต้องจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม และเรียกเก็บ VAT 7% จากบริการที่เกี่ยวข้อง เช่น ค่าห้องพัก อาหาร เครื่องดื่ม ฟิตเนส และสปา โดยต้องยื่นแบบ ภ.พ.30 ภายในวันที่ 15 ของเดือนถัดไป

4. ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง 
โรงแรมต้องเสียภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง โดยอัตราภาษีจะอยู่ระหว่าง 0.3% - 0.7% ของมูลค่าประเมิน ขึ้นอยู่กับประเภทการใช้ประโยชน์จากที่ดินและการประเมินของหน่วยงานท้องถิ่น

 
สามารถอ่านข้อมูลเกี่ยวกับภาษีที่เกี่ยวข้องและแนวทางการวางแผนภาษีที่มีประสิทธิภาพได้ที่ ภาษีโรงแรมที่เจ้าของกิจการต้องรู้ 

บริษัท นรินทร์ทอง จำกัด 
เราคือผู้เชี่ยวชาญด้านบัญชีและภาษี รวมไปถึงการจดทะเบียนนิติบุคคล ทั้งบริษัทและห้างหุ้นส่วน ด้วยประสบการณ์มากกว่า 20 ปี พร้อมให้บริการที่หลากหลายแก่คุณ:

  • การยื่นภาษีอากร: เราช่วยยื่นภาษีให้คุณโดยไม่ยุ่งยาก
  • รับจดทะเบียนบริษัท: สร้างความน่าเชื่อถือให้กับธุรกิจของคุณ
  • บริการคำนวณเงินเดือนพนักงาน: เราช่วยคำนวณอย่างถูกต้อง
  • บริการทำบัญชี: ดูแลบัญชีให้ราบรื่นและไม่ผิดพลาด
ติดต่อสอบถาม 
หากมีข้อสงสัยหรือต้องการคำปรึกษาจาก นรินทร์ทอง:

- Facebook: NarinthongOfficial 
- E-mail: narinthong.ac@gmail.com 
- Line: @Narinthong 
- Tel: 081-627-6872, 02-404-2339 
#9


ออฟฟิศให้เช่า vs โฮมออฟฟิศ ทางเลือกไหนตอบโจทย์ธุรกิจคุณ?
สำหรับนักธุรกิจที่กำลังหาออฟฟิศเพื่อทำงาน, ต้อนรับลูกค้า, และเสริมภาพลักษณ์ให้บริษัท, การเลือกสถานที่ทำงานที่เหมาะสมมีความสำคัญมาก ออฟฟิศไม่เพียงแต่เป็นพื้นที่ทำงาน แต่ยังเป็นส่วนหนึ่งที่ส่งเสริมการทำงานของทีมและสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้า บทความนี้จะแนะนำข้อดีและข้อเสียของการเลือกออฟฟิศให้เช่าหรือโฮมออฟฟิศ ช่วยให้คุณเลือกได้ตรงตามความต้องการของธุรกิจคุณที่ TIPCO TOWER




ข้อดี ข้อเสีย และความเหมาะสมของการใช้ออฟฟิศให้เช่า

ข้อดีของออฟฟิศให้เช่า:
1. ทำเลสะดวก: ตั้งอยู่ใจกลางเมืองหรือย่านธุรกิจ ใกล้ระบบขนส่งสาธารณะ
2. ขนาดพื้นที่ยืดหยุ่น: เลือกตามความต้องการของธุรกิจ เหมาะกับการขยายตัว
3. สิ่งอำนวยความสะดวกครบ: รวมระบบความปลอดภัย ห้องประชุม ฟิตเนส และอื่นๆ
4. ความยืดหยุ่นของสัญญา: ปรับตามแผนธุรกิจ ให้ความมั่นคงกับการดำเนินงาน
5. การควบคุมค่าใช้จ่าย: คาดการณ์และจัดการค่าใช้จ่ายธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ
6. ส่งเสริมภาพลักษณ์ธุรกิจ: ทำเลดีและสิ่งอำนวยความสะดวกส่งเสริมภาพลักษณ์ที่ดี

ข้อเสียของออฟฟิศให้เช่า:
1. ค่าใช้จ่ายสูง: พื้นที่ทำเลดีมักมีค่าเช่าสูง ซึ่งเพิ่มต้นทุนให้ธุรกิจ
2. ข้อจำกัดในการปรับปรุง: ต้องตามเงื่อนไขเจ้าของพื้นที่ ลดความยืดหยุ่นในการใช้งาน
3. ไม่มีสิทธิ์ครอบครอง: ผู้เช่าไม่มีสิทธิ์เป็นเจ้าของพื้นที่ อาจกระทบแผนธุรกิจระยะยาว




ข้อดี ข้อเสีย และความเหมาะสมของโฮมออฟฟิศ
ข้อดีของโฮมออฟฟิศ:
1. ประหยัดค่าใช้จ่าย: ไม่มีค่าเช่า ลดเวลาและค่าใช้จ่ายในการเดินทาง
2. ความเป็นเจ้าของ: ใช้พื้นที่เป็นทั้งที่อยู่และทำงาน มีโอกาสเพิ่มมูลค่าอสังหาริมทรัพย์
3. ปรับพื้นที่ได้เต็มที่: ตกแต่งและปรับเปลี่ยนได้ตามต้องการ เสริมสร้างภาพลักษณ์ธุรกิจ

ข้อเสียของโฮมออฟฟิศ:
1. ทำเลอาจไม่สะดวก: ตั้งอยู่ในย่านที่อยู่อาศัย อาจห่างจากศูนย์กลางธุรกิจ
2. ขนาดพื้นที่จำกัด: อาจไม่เพียงพอหากธุรกิจขยาย พื้นที่อาจทับซ้อนกับส่วนตัว
3. จำกัดสิ่งอำนวยความสะดวก: ขาดแคลนพื้นที่จอดรถและบริการใกล้เคียง เช่น ร้านอาหาร
4. ภาพลักษณ์ไม่เป็นทางการ: อาจไม่ส่งเสริมความน่าเชื่อถือหากธุรกิจต้องการภาพลักษณ์ที่เป็นมืออาชีพ
5. ปัญหาบัญชีและภาษี: การแยกค่าใช้จ่ายส่วนตัวกับธุรกิจอาจทำได้ยาก เพิ่มความซับซ้อนในการจัดการภาษีและบัญชี



ออฟฟิศให้เช่าหรือโฮมออฟฟิศ แบบไหนเหมาะกับคุณ?
ออฟฟิศให้เช่า:
1. เหมาะสำหรับธุรกิจที่ต้องการสร้างภาพลักษณ์มืออาชีพ
2. มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน
3. ทำเลดี สะดวกในการเดินทางและขยายฐานลูกค้า
โฮมออฟฟิศ:
1. ประหยัดค่าใช้จ่าย, ไม่มีค่าเช่ารายเดือน
2. สามารถปรับแต่งพื้นที่ได้ตามต้องการ
3. ทำเลอาจไม่สะดวกสำหรับการติดต่อธุรกิจหรือมีขนาดพื้นที่จำกัด



สำหรับใครที่กำลังหาออฟฟิศให้เช่า TIPCO TOWER เป็นอีกหนึ่งตัวเลือก ที่เหมาะกับธุรกิจยุคใหม่ ไม่ว่าจะเป็น
TIPCO TOWER นำเสนอสำนักงานให้เช่าที่ตอบสนองทุกความต้องการ:
1. ทำเลที่ตั้ง: ใกล้ BTS อารีย์, MRT บางซื่อ, และทางด่วนพระราม 6
2. พื้นที่: เริ่มต้น 100 ตารางเมตร, มีหลากหลายขนาด
3. ราคา: 700 บาท/ตร.ม., คุ้มค่าเมื่อเทียบกับย่านศูนย์กลางธุรกิจ
4. สิ่งอำนวยความสะดวก: ฟิตเนส, สระว่ายน้ำ, ห้องประชุม, ที่จอดรถ, และร้านอาหาร
5. ความปลอดภัย: ระบบควบคุมการเข้า-ออก, กล้องวงจรปิด, และเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง
6. บริการ: ทำความสะอาด, บำรุงรักษาระบบไฟฟ้าและเครื่องปรับอากาศ
7. เทคโนโลยี: ระบบโทรศัพท์ภายในองค์กร, อินเทอร์เน็ต Fiber Optic และ 5G
8. สิ่งแวดล้อม: ล้อมรอบด้วยพื้นที่สีเขียว, ใกล้สวนจตุจักร, ส่งเสริมการทำงานแบบ Work-Life Balance



สนใจเช่าสำนักงานกับ TIPCO TOWER ติดต่อเรา

#10


ออฟฟิศให้เช่า หรือ สร้างเอง วิเคราะห์ข้อดี-ข้อเสียสำหรับผู้ประกอบการ
การเลือกที่ทำงานเหมาะสมคือหัวใจสำคัญของความสำเร็จธุรกิจ โดยเฉพาะช่วงตั้งต้น คำถามที่มักเกิดคือควรเลือก "ออฟฟิศให้เช่า" หรือ "สร้างเอง" TIPCO TOWER นำคุณไปพิจารณาข้อดีและข้อเสียของทั้งสอง เพื่อการตัดสินใจที่เหมาะสมกับธุรกิจของคุณ




ข้อดี ข้อเสีย เหมาะกับใคร: ออฟฟิศให้เช่า

ข้อดีของออฟฟิศให้เช่า:
1. ทำเลที่ดี: ตั้งอยู่ในย่านธุรกิจ ช่วยลดเวลาเดินทางและเสริมภาพลักษณ์ที่ดีให้กับองค์กร
2. พื้นที่ยืดหยุ่น: เลือกขนาดพื้นที่ตามความต้องการ ช่วยควบคุมค่าใช้จ่าย
3. การควบคุมงบประมาณ: ค่าเช่าคงที่ตามพื้นที่ใช้สอย ลดความต้องการใช้เงินก้อนใหญ่
4. พร้อมใช้งานทันที: มีโครงสร้างพื้นฐานครบครัน ช่วยเริ่มดำเนินการได้ทันที
5. สิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน: รวมถึงระบบความปลอดภัย ห้องประชุม ฟิตเนส และอื่นๆ
6. ค่าบำรุงรักษาน้อย: ผู้เช่าไม่ต้องรับผิดชอบค่าบำรุงรักษาหลัก

ข้อเสียของออฟฟิศให้เช่า:
1. ค่าใช้จ่ายต่อเดือน: ค่าเช่ารายเดือนคงที่ อาจเพิ่มตามสัญญา
2. ข้อจำกัดด้านการปรับเปลี่ยน: มีข้อจำกัดในการเปลี่ยนแปลงพื้นที่ตามต้องการ



ข้อดี ข้อเสีย เหมาะกับใคร: สร้างเอง
ข้อดีของการสร้างออฟฟิศเอง:
1. เป็นเจ้าของทรัพย์สิน: เพิ่มมูลค่าทรัพย์สินในระยะยาวและลดค่าใช้จ่ายจากการเช่า
2. ปรับแต่งได้เต็มที่: ออกแบบพื้นที่ทำงานให้เหมาะสมกับความต้องการและเอกลักษณ์ของธุรกิจ

ข้อเสียของการสร้างออฟฟิศเอง:
1. ต้นทุนสูง: ต้องลงทุนมากในการซื้อที่ดิน, ออกแบบ, ก่อสร้าง, และตกแต่ง
2. กระบวนการยืดเยื้อ: ต้องใช้เวลานานในการออกแบบ, ขออนุญาต, และก่อสร้าง
3. ความเสี่ยงทางธุรกิจ: ความยืดหยุ่นน้อยหากต้องการขยายหรือเปลี่ยนทำเล, มีภาระค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษาต่อเนื่อง



TIPCO TOWER: ออฟฟิศให้เช่า พร้อมตกแต่ง ที่เหมาะกับธุรกิจยุคใหม่ ตอบสนองทุกความต้องการในการทำงาน

1. ทำเลที่ตั้ง: ใกล้ BTS สถานีอารีย์, MRT สถานีบางซื่อ และทางด่วนพระราม 6, เพิ่มความสะดวกในการเดินทาง
2. ขนาดพื้นที่: เริ่มต้น 100 ตารางเมตร, ตอบโจทย์ทุกขนาดของธุรกิจ
3. ราคา: ตั้งแต่ 700 บาท/ตร.ม., คุ้มค่าเมื่อเทียบกับย่านธุรกิจหลัก
4. การตกแต่ง: ฝ้าเพดานสูง, พร้อมเฟอร์นิเจอร์ครบชุด, รองรับการขยายออฟฟิศในอนาคต
5. สิ่งอำนวยความสะดวก: รวมถึงร้านอาหาร, ศูนย์อาหาร, ฟิตเนส, สระว่ายน้ำ, ห้องประชุม, และที่จอดรถ
6. ความปลอดภัย: ระบบความปลอดภัยมาตรฐานสูง, ระบบกล้องวงจรปิด, และเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชม
7. บริการ: มีบริการทำความสะอาด, ดูแลระบบไฟฟ้า, และเครื่องปรับอากาศ
8. เทคโนโลยี: มีระบบโทรศัพท์ภายในองค์กร, อินเตอร์เน็ต Fiber Optic และ 5G, และระบบควบคุมอาคารอัจฉริยะ
9. บรรยากาศ: มีพื้นที่สีเขียวล้อมรอบ ช่วยสร้างสภาพแวดล้อมที่โปร่งโล่งและสบาย, อยู่ใกล้สวนจตุจักร



สนใจเช่าสำนักงานกับ TIPCO TOWER ติดต่อเรา


#11
รายได้จากการทำบัญชี เข้าข่ายเป็นเงินได้ประเภทใด และต้องเสียภาษีอย่างไร?




สำหรับผู้ที่ทำงานในสายบัญชี ไม่ว่าจะเป็นนักบัญชี ผู้ให้บริการรับทำบัญชี ผู้สอบบัญชี หรือที่ปรึกษาด้านบัญชีและภาษี การเข้าใจประเภทของเงินได้ที่เกี่ยวข้องกับอาชีพของตนเองถือเป็นเรื่องสำคัญ เพราะจะช่วยให้สามารถวางแผนภาษีได้อย่างถูกต้องและมีประสิทธิภาพ บทความนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจว่ารายได้จากรับทำบัญชีเป็นเงินได้ประเภทไหน และสามารถหักค่าใช้จ่ายได้อย่างไร

เงินได้ประเภทที่เกี่ยวข้องกับการ รับทำบัญชี
ตามประมวลรัษฎากร รายได้จากการทำบัญชีถือเป็นเงินได้พึงประเมินภายใต้ มาตรา 40 ซึ่งสามารถแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลัก ได้แก่:



1. เงินได้ประเภทที่ 6 (มาตรา 40(6))
เงินได้ประเภทนี้หมายถึง รายได้จากวิชาชีพอิสระ เช่น วิชากฎหมาย การแพทย์ วิศวกรรม สถาปัตยกรรม การบัญชี และวิชาชีพเฉพาะอื่นๆ ที่กำหนดไว้ตามกฎหมาย สามารถหักค่าใช้จ่ายแบบเหมาจ่ายได้ในอัตรา 30-60% ของรายได้ หรือสามารถเลือกหักค่าใช้จ่ายตามจริงได้หากมีเอกสารประกอบครบถ้วน

2. เงินได้ประเภทที่ 2 (มาตรา 40(2))
หมายถึง รายได้จากการทำงานในลักษณะที่เป็นการรับจ้างหรือค่าตอบแทนจากหน้าที่การงาน สามารถหักค่าใช้จ่ายแบบเหมาจ่ายได้ 50% ของรายได้ ต้องนำไปรวมคำนวณกับเงินได้ประเภทที่ 40(1) และสามารถหักได้ไม่เกิน 100,000 บาท

สำหรับใครที่ต้องการอ่านต่อสามารถเข้าไปอ่านได้ที่ รับทำบัญชีเป็นเงินได้ประเภทไหน

บริหารภาษีให้ถูกต้องกับ นรินทร์ทอง
การเข้าใจประเภทเงินได้และการหักค่าใช้จ่ายที่เหมาะสม จะช่วยให้สามารถจัดการภาษีได้อย่างมีประสิทธิภาพ หากคุณกำลังมองหาสำนักงานบัญชีที่มีประสบการณ์กว่า 20 ปี บริษัท นรินทร์ทอง จำกัด พร้อมให้บริการรับทำบัญชี ตรวจสอบบัญชี และให้คำปรึกษาด้านภาษี โดยทีมงานมืออาชีพ สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่:

📌 Facebook: NarinthongOfficial
📌 E-mail: narinthong.ac@gmail.com
📌 Line: @Narinthong
📌 โทร: 081-627-6872

#12
กำลังตัดสินใจจดทะเบียนบริษัท? อ่านนี่ก่อน!



หากคุณกำลังศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับ ค่าใช้จ่ายในการจดทะเบียนบริษัท และสงสัยว่าควรดำเนินการเองหรือจ้างสำนักงานบัญชี แบบไหนคุ้มค่ากว่ากัน บทความนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจรายละเอียดทุกขั้นตอน พร้อมช่วยให้คุณตัดสินใจได้ง่ายขึ้น



ควรจดทะเบียนบริษัทเมื่อไร?




ก่อนตัดสินใจจดทะเบียนบริษัท ควรประเมินความพร้อมของธุรกิจของคุณเสียก่อน เนื่องจากการดำเนินธุรกิจในรูปแบบนิติบุคคลช่วยให้เสียภาษีในอัตราไม่เกิน 20% ซึ่งน้อยกว่าภาษีบุคคลธรรมดาที่สูงสุดถึง 35% อย่างไรก็ตาม การจดทะเบียนบริษัทมาพร้อมกับภาระทางบัญชีและภาษีที่ต้องดูแล

ลองตอบคำถามเหล่านี้เพื่อเช็คความพร้อมของคุณ:
- ธุรกิจของคุณมีรายได้ที่สูงกว่าค่าใช้จ่ายในการเข้าระบบหรือไม่?
- คุณต้องการสร้างหลักฐานทางการเงินเพื่อขอสินเชื่อในอนาคตหรือไม่?
- คุณพร้อมแยกบัญชีธุรกิจออกจากบัญชีส่วนตัวหรือยัง?

หากคำตอบของคุณคือ "ใช่" การจดทะเบียนบริษัทอาจเป็นทางเลือกที่เหมาะสม อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับ เงื่อนไขที่ต้องพิจารณาก่อนจดทะเบียนบริษัท ได้ที่ เว็บไซต์ Narinthong

ค่าใช้จ่ายในการจดทะเบียนบริษัท



ดำเนินการด้วยตนเอง


- ค่าจดทะเบียนบริคณห์สนธิ: 500 บาท
- ค่าจดทะเบียนบริษัท: ประมาณ 5,000 บาท
- ค่าจดตราประทับ: ประมาณ 500 บาท
- ค่าธรรมเนียมหนังสือรับรอง: 40 บาท/รายการ
- ใบสำคัญแสดงการจดทะเบียน: 100 บาท/รายการ
- รับรองสำเนาการจดทะเบียน: 50 บาท/หน้า
- รวมทั้งสิ้นประมาณ 6,190 บาท (ยังไม่รวมค่าเดินทางและค่าใช้จ่ายอื่นๆ)

จ้างสำนักงานบัญชี



- ราคาขึ้นอยู่กับบริการที่เลือก:
  - จดทะเบียนออนไลน์: 2,500 - 5,000 บาท (ไม่รวมค่าธรรมเนียม)
  - จดทะเบียน Walk-in: 3,500 - 5,000 บาทขึ้นไป (ไม่รวมค่าธรรมเนียม)

สรุป

การจดทะเบียนบริษัทเป็นขั้นตอนสำคัญที่ควรพิจารณาอย่างรอบคอบ ไม่ว่าคุณจะเลือกจดทะเบียนบริษัทเองหรือใช้บริการจากผู้เชี่ยวชาญ หากต้องการลดความยุ่งยากและให้การดำเนินการเป็นไปอย่างถูกต้อง บริษัท นรินทร์ทอง จำกัด พร้อมให้บริการครบวงจร ทั้ง จดทะเบียนบริษัท รับทำบัญชี และให้คำปรึกษาด้านภาษี โดยทีมผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์กว่า 20 ปี

บริการของเรา:
- ยื่นภาษีอากร ให้คุณโดยไม่ต้องจัดเตรียมเอกสารเอง
- รับจดทะเบียนบริษัท เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้ธุรกิจ
- บริการทางด้านการเงิน เช่น การยื่นแบบเงินเดือนและประกันสังคม
- รับทำบัญชี โดยมืออาชีพ ลดข้อผิดพลาดและเพิ่มประสิทธิภาพให้ธุรกิจ

📩 สนใจสอบถามเพิ่มเติมได้ที่:
- Facebook: NarinthongOfficial
- E-mail: narinthong.ac@gmail.com
- Line: @Narinthong
- Tel: 081-627-6872 , 02-404-2339
#13
จดบริษัทที่ไหนได้บ้างกับเรานริทร์ทอง




หากคุณกำลังจะ จดบริษัท การเลือกช่องทางการจดทะเบียนเป็นสิ่งที่ควรพิจารณาอย่างรอบคอบ โดยปัจจุบันมี 2 ช่องทางหลักในการจดทะเบียนบริษัท ได้แก่ การจดทะเบียนที่กรมพัฒนาธุรกิจการค้า (DBD) และการจดทะเบียนออนไลน์ผ่านระบบของ DBD





จดทะเบียนที่กรมพัฒนาธุรกิจการค้า (DBD): 
ผู้ประกอบการสามารถไปยื่นเอกสารและดำเนินการด้วยตนเองที่กรมพัฒนาธุรกิจการค้า (DBD) ซึ่งในกรุงเทพฯ มีสำนักงานถึง 7 แห่ง รวมทั้งที่สนามบินน้ำ ปิ่นเกล้า พหลโยธิน และอื่นๆ ส่วนในต่างจังหวัดสามารถทำได้ที่สำนักงานพาณิชย์จังหวัด ประโยชน์ของการยื่นเอกสารที่ DBD คือ การได้รับคำแนะนำจากเจ้าหน้าที่โดยตรงและการตรวจสอบเอกสารทันที หากพบข้อผิดพลาดสามารถแก้ไขได้ทันทีในวันเดียวกัน



จดทะเบียนออนไลน์: 
การจดทะเบียนออนไลน์สะดวกและประหยัดเวลา โดยสามารถทำได้ทุกที่ทุกเวลาผ่านระบบ DBD e-Registration หรือ DBD Biz Regist ระบบใหม่ที่ช่วยให้การลงทะเบียนสะดวกขึ้นและสามารถยืนยันตัวตนผ่าน ThaiD และ Digital ID ได้

การเลือกช่องทาง จดทะเบียนบริษัท จึงขึ้นอยู่กับความสะดวกของผู้ประกอบการ หากต้องการคำแนะนำแบบตัวต่อตัวและตรวจสอบเอกสารทันที การไปยื่นที่ DBD อาจเหมาะสมกว่า แต่หากต้องการความสะดวกและรวดเร็ว การจดทะเบียนออนไลน์ก็เป็นทางเลือกที่ดี อย่างไรก็ตาม การเตรียมเอกสารให้ครบถ้วนเป็นสิ่งสำคัญ หากต้องการอ่านข้อมูลเต็มๆ สามารถเข้าไปที่ จดทะเบียนบริษัทที่ไหนได้บ้าง

สำหรับใครที่ต้องการปรึกษาสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่... 
- Facebook: NarinthongOfficial 
- E-mail: narinthong.ac@gmail.com 
- Line: @Narinthong 
- Tel: 081-627-6872 , 02-404-2339
#14
จดบริษัทใช้เอกสารอะไรบ้าง? เอกสารสำคัญที่ต้องเตรียมก่อนยื่นจดทะเบียนบริษัท

บทความนี้ของ Narinthong จะแนะนำรายการเอกสารที่จำเป็นสำหรับการจดทะเบียนบริษัท เพื่อให้กระบวนการดำเนินไปอย่างถูกต้องและราบรื่น 

การเริ่มต้นธุรกิจในรูปแบบนิติบุคคลเป็นก้าวสำคัญที่ช่วยให้บริษัทดำเนินงานได้อย่างมั่นคงและเป็นทางการ นอกจากนี้ ยังช่วยสร้างความน่าเชื่อถือให้กับลูกค้าและพันธมิตรทางธุรกิจอีกด้วย 

เอกสารที่ต้องใช้ในการจดทะเบียนบริษัท

  • สำเนาบัตรประชาชนและทะเบียนบ้านของผู้ก่อตั้ง – เป็นเอกสารที่ใช้ยืนยันตัวตนของผู้ก่อตั้งบริษัท โดยต้องมีสำเนาที่ชัดเจนของกรรมการและผู้ถือหุ้นหลัก 
  • หนังสือรับรองที่ตั้งสำนักงาน – หากใช้สถานที่ตั้งของบุคคลอื่น ต้องมีหนังสือให้ความยินยอมจากเจ้าของสถานที่ เพื่อใช้เป็นหลักฐานว่าบริษัทมีที่อยู่เป็นหลักแหล่งแน่นอน 
  • แบบคำขอจดทะเบียนบริษัท (แบบ บอจ.1) – เป็นเอกสารหลักที่ระบุข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับบริษัท เช่น ชื่อบริษัท ทุนจดทะเบียน รายชื่อกรรมการ และวัตถุประสงค์ของบริษัท 
  • หนังสือบริคณห์สนธิ – เอกสารที่กำหนดรายละเอียดเกี่ยวกับโครงสร้างและวัตถุประสงค์ของบริษัท รวมถึงทุนจดทะเบียนและการแบ่งสัดส่วนผู้ถือหุ้น 
  • รายการจองชื่อบริษัท – บริษัทต้องจองชื่อและได้รับอนุมัติจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า โดยชื่อที่ใช้ต้องไม่ซ้ำหรือคล้ายกับบริษัทอื่น 
  • แบบฟอร์มอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง – เช่น แบบ บอจ.2 สำหรับแจ้งรายชื่อกรรมการ และแบบ บอจ.3 สำหรับรายชื่อผู้ถือหุ้น ซึ่งเป็นข้อมูลสำคัญที่ต้องแจ้งต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้า 
ตัวอย่างการอธิบายเอกสารของ Narinthong


คำขอจดทะเบียนบริษัทจำกัด (แบบ บอจ.1) 
บอจ.1 เป็นแบบฟอร์มคำขอจดทะเบียนบริษัท หรือเอกสารรับรองการจดทะเบียน เมื่อกระบวนการจดทะเบียนเสร็จสิ้น ผู้จดทะเบียนจะได้รับหนังสือรับรอง ซึ่งใช้เป็นหลักฐานยืนยันว่าบริษัทได้รับการจดทะเบียนอย่างถูกต้องตามกฎหมาย 


หนังสือบริคณห์สนธิ (แบบ บอจ.2) 
บอจ.2 เป็นเอกสารสำคัญที่ใช้สำหรับระบุรายละเอียดของบริษัท โดยมีข้อมูลที่แสดงถึงวัตถุประสงค์ในการจัดตั้งบริษัท ซึ่งประกอบด้วยข้อมูลสำคัญดังต่อไปนี้:
  • - ชื่อบริษัท 
  • - ที่ตั้งของสำนักงานใหญ่ 
  • - เป้าหมายในการจัดตั้งบริษัท 
  • - จำนวนทุนจดทะเบียน 
  • - รายชื่อผู้ถือหุ้น 
  • - ข้อมูลของผู้ริเริ่มก่อตั้งบริษัท 


การเตรียมเอกสารให้ครบถ้วนช่วยให้กระบวนการจดทะเบียนเป็นไปอย่างราบรื่น หากต้องการคำแนะนำเพิ่มเติม สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 
จดบริษัทใช้เอกสารอะไรบ้าง

บริการจากบริษัท นรินทร์ทอง จำกัด 
  • บริการด้านภาษีอากร – ช่วยยื่นภาษีและจัดทำรายงานภาษีให้คุณ โดยไม่ต้องยุ่งยากกับการจัดเตรียมเอกสาร 
  • บริการรับจดทะเบียนบริษัท – เพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับธุรกิจของคุณ โดยมีผู้เชี่ยวชาญคอยดูแลทุกขั้นตอน 
  • บริการด้านการเงินและประกันสังคม – รับดำเนินการเกี่ยวกับการยื่นแบบเงินเดือนและประกันสังคมของพนักงาน 
  • บริการรับทำบัญชี – เหมาะสำหรับธุรกิจที่ต้องการลดความยุ่งยากในการทำบัญชี และลดข้อผิดพลาดทางการเงิน 
หากต้องการคำปรึกษาหรือข้อมูลเพิ่มเติม สามารถติดต่อเราได้ที่: 
📌 Facebook: NarinthongOfficial 
📩 E-mail: narinthong.ac@gmail.com 
📱 Line: @Narinthong 
📞 Tel: 081-627-6872 , 02-404-2339



#15



สำนักงาน ออฟฟิศให้เช่า พร้อมเฟอร์นิเจอร์ ใกล้รถไฟฟ้า ครบวงจร
สำนักงานให้เช่า TIPCO TOWER อาคารสำนักงานคุณภาพสูง 33 ชั้น พร้อมรองรับมากกว่า 3,000 คน และที่จอดรถกว่า 1,200 คัน ตั้งอยู่ย่านพระราม 6 ใกล้ทางด่วน และสถานี BTS อารีย์ รวมถึง MRT บางซื่อ เสนอพื้นที่สำนักงานที่ออกแบบอย่างมีคุณภาพ มีทุกสิ่งที่จำเป็นสำหรับธุรกิจที่ต้องการความคุ้มค่าและความสะดวกสบาย



จุดเด่นที่คุณต้องเลือก ออฟฟิศให้เช่า กับ TIPCO TOWER

  • อาคารเกรด A: ดีไซน์รีสอร์ท, เหมาะสำหรับธุรกิจสมัยใหม่
  • พื้นที่กว้างขวาง: เริ่มต้น 100 ตร.ม., ตอบโจทย์ทุกธุรกิจ
  • ทำเลสะดวก: ใกล้ BTS อารีย์และ MRT บางซื่อ, มีรถ Shuttle Service
  • รักษาความปลอดภัย: มี IP CCTV, ระบบควบคุมการเข้าออก, รักษาความปลอดภัย 24 ชม.
  • ห้องประชุมสมัยใหม่: รองรับการประชุมขนาดใหญ่
  • ออฟฟิศพร้อมตกแต่ง: ตกแต่งครบ, เริ่มใช้งานได้ทันที
  • สิ่งอำนวยความสะดวกพรีเมียม: สระว่ายน้ำปรับอุณหภูมิ, ฟิตเนสขนาดใหญ่
  • Wellness Center: มีคลินิกสุขภาพในอาคาร
  • หลากหลายตัวเลือกร้านอาหาร: รวมถึง Starbucks และ Food Court


ราคาสำนักงานให้เช่า TIPCO TOWER

สำนักงานใหญ่ในกรุงเทพมักมีค่าเช่าเริ่มต้นที่ 1,400 บาท/ตร.ม. แต่ TIPCO TOWER เสนอราคาเริ่มต้นเพียง 700 บาท/ตร.ม. สำหรับพื้นที่เริ่มต้น 100 ตารางเมตร, ทำให้ประหยัดกว่า 20% จากอาคารอื่นๆ ในเมือง



รายละเอียดออฟฟิศให้เช่า เพิ่มเติม

  • ขนาดพื้นที่หลากหลาย
  • เปิดบริการ 24 ชม
  • ลิฟท์มากกว่า 10 ตัว
  • โครงสร้างทันสมัย
  • ราคาเริ่มต้น: 700-920 บาท/ตร.ม.
  • ร้านค้าในอาคาร: Starbucks, Betagro Deli, 7-11, Think lab, Before & After Cafe, Food Court.
  • การจดทะเบียนบริษัท: การดำเนินการได้ง่าย





พื้นที่ใกล้เคียง TIPCO TOWER

  • โรงพยาบาล: ใกล้โรงพยาบาลวิชัยยุทธ 2 นาที
  • BTS และ MRT: อารีย์และบางซื่อ 5 นาที
  • ทางด่วน: พระราม 6 เพียง 1 นาที
  • สวนจตุจักร: 8 นาที

TIPCO TOWER สำนักงานให้เช่าที่ครบครัน, ตอบทุกความต้องการของเจ้าของธุรกิจด้วยความสะดวกสบาย, ทำเลยอดเยี่ยม, และสิ่งอำนวยความสะดวกครบถ้วน ไม่เพียงแต่พื้นที่ทำงาน แต่ยังช่วยเสริมสร้างประสบการณ์และความสำเร็จให้กับธุรกิจของคุณ


อ่านบทความ ออฟฟิศให้เช่า พร้อมเฟอร์นิเจอร์ ใกล้รถไฟฟ้า ครบวงจร คลิกที่นี่


สนใจเช่าสำนักงานกับ TIPCO TOWER ติดต่อเรา