• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Messages - damonshoppu

#196


ปัจจุบันการใช้งานน้ำยาประสานคอนกรีตได้รับความนิยม เพราะจะช่วยให้แรงยึดเกาะสูงโดยเฉพาะพื้นผิวปูนและคอนกรีต ที่จะทำให้โครงสร้างมีความทนทานมากขึ้น มีกำลังสูงขึ้น ช่วยป้องกันซึมให้ตัวเองได้ด้วย กระนั้นการใช้งานหากจะทำเองก็ควรต้องศึกษาวิธีที่เหมาะสม รวมถึงสิ่งที่ต้องระวังไว้ด้วย และเราก็ได้รวบรวมข้อมูลมาบอกต่อ

วิธีการใช้งานน้ำยาประสานคอนกรีตที่ถูกต้องเหมาะสม

1. เตรียมพื้นผิวให้ดี

จะเป็นพื้นผิวเก่า หรือพื้นผิวคอนกรีตเดิม ต้องมีการทำความสะอาดให้ดี ไม่มีคราบน้ำมัน หรือเศษปูน เศษยางมะตอยหลงเหลือ โดยที่ผิวหน้าของพื้นควรมีความขรุขระ ให้ทำลายหน้าที่ผิวคอนกรีตเอาไว้หากไม่มีก็เทปูนแล้วทำลายไปก่อนอย่าเพิ่งให้ปูนเซตตัว

2. เตรียมน้ำยาให้พร้อม

สำหรับการเตรียมน้ำยาประสานนี้นั้นควรมีการผสมซีเมนต์กับส่วนผสมที่เหมาะสมในอัตราส่วน 1 : 1 และเตรียมน้ำยากับน้ำสะอาดในอัตราส่วน 1 : 1 แล้วกวนให้เข้ากัน 4 – 5 นาที จนกว่าจะเป็นเนื้อเดียวกัน และมีสีเท่ากันหมด ได้เนื้อที่เนียนสวยงาม ทั้งนี้ควรใช้สว่าน หรืออุปกรณ์กวนห้ามใช้มือเด็ดขาด เมื่อทำเสร็จแล้วให้ใช้งานเลยทันทีไม่ควรเก็บไว้นานเพราะผิวหน้าปูนแห้ง

3. การทาน้ำยาที่ผสมเสร็จแล้ว

ต่อมาคือการทาน้ำยาประสานที่ผสมเสร็จแล้วด้วยการใช้ลูกกลิ้ง หรือแปรงโดยที่ให้กลิ้งไปตามพื้นผิวที่ต้องการให้ประสานตัวกัน และควรทาน้ำยานี้ก่อนเทไม่เกิน 30 – 45 นาที ป้องกันไม่ให้น้ำยาแห้ง เพราะไม่อย่างนั้นทาแล้วจะเป็นเนื้อเหนียวข้น อย่ารอให้แห้งสนิท เมื่อทาน้ำยาเสร็จแล้วให้เทคอนกรีตตามลงไปเลยทันที

4. ตรวจสอบว่าน้ำยาประสานกันดีไหม

สุดท้ายก็คือให้ตรวจสอบดูน้ำยาเลยว่าประสานตัวกันดีไหมกับคอนกรีตเก่าและใหม่ ที่หลังจากงานเสร็จคอนกรีตแห้งก็ให้ดูเลยว่าดีไหม ไม่แยกชั้นใช่ไหม ไม่มีโพรง ฟองอากาศ หากดูแล้วไม่มีปัญหาเท่ากับการติดตั้งเสร็จแล้วใช้งานได้เลยทันที

ข้อควรระวังในการใช้งานน้ำยาช่วยประสานคอนกรีต

การใช้งานน้ำยาช่วยประสานคอนกรีตนี้นั้นก็มีข้อควรระวัง และข้อจำกัดอยู่ด้วย อยากให้ลองศึกษาเพื่อรับมืออย่างดีที่สุด โดยที่คุณต้องห้ามเทน้ำยากับพื้นผิวที่เป็นยางมะตอย หรือผิวเหล็ก และเมื่อแห้งตัวก็ต้องซ้ำอีกรอบ รวมถึงหากมีฝนตกลงมาชะล้างที่เราทาน้ำยาไว้ก็ต้องทาซ้ำอีกรอบด้วย ทั้งนี้ นอกจากใช้น้ำยาช่วยประสานแล้วก็ควรใช้น้ำยากันซึมร่วมด้วยเพื่อประสิทธิภาพในการใช้งานมากขึ้น

หวังเป็นอย่างยิ่งว่าในการใช้งานน้ำยาประสานคอนกรีตของคุณด้วยตัวเองจะผ่านไปได้อย่างดี ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่ก็ต้องพิจารณาเรื่องข้อควรระวังด้วย เพื่อลดความเสี่ยงในการใช้งาน ซึ่งปัจจุบันมีหลากหลายยี่ห้อมากพิจารณาเลือกได้จากรีวิวผู้เคยใช้งานก็ได้ มั่นใจไม่ผิดหวัง
#197


ใครที่กำลังมองหาลำโพงที่ใช้งานแบบบลูทูธ หรือพกพาอยู่แต่ไม่รู้ว่าจะตัดสินใจเลือกยี่ห้อไหนดี เราไม่รอช้าที่จะแนะนำให้รู้จักกับยี่ห้อ JBL ที่ผลิตออกมาหลายรุ่นมาก และเพื่อให้การเลือกใช้งานตอบโจทย์ขั้นสุด วันนี้เราจึงได้รวบรวมมาแนะนำกันถึง 4 เครื่องด้วยกัน จะเป็นรุ่นไหน น่าสนใจอย่างไร ไปติดตามกันได้

แนะนำ 4 ลำโพงแบบพกพายี่ห้อ JBL ที่ควรมีติดตัว

1. JBL รุ่น FLIP6

มาเริ่มต้นกันที่รุ่นแรกกับ JBL รุ่น FLIP6 สีน้ำเงิน ที่พร้อมมอบความบันเทิงด้วยระบบ 2 ทิศทาง ที่ได้เสียงชัดเจน เร้าใจ มีระบบกันฝุ่น IP67 ที่สามารถพกพาไปได้ทุกที่ ใช้งานกันยาว ๆ เลยสูงสุด 12 ชม. สามารถเชื่อมต่อลำโพงได้หลายตัวด้วยเทคโนโลยีแบบ JBL Party Boos สามารถวางได้ทั้งแบบแนวตั้งและแนวนอน ราคาอยู่ที่เครื่องละ 4,410 บาท

2. JBL รุ่น CLIP4

ลำโพงบลูทูธ JBL รุ่น CLIP4 ที่เป็นรูปแบบการเชื่อมต่อสตรีมเพลงไร้สายจะมือถือ แท็ปเล็ต หรืออุปกรณ์อื่น ๆ ได้เลยที่ต่อผ่านบลูทูธได้ มีดีไซน์ลำโพงที่ทันสมัยสวยงาม มีคลิปคล้องขนาดใหญ่ พกพาสะดวก ควบคุมการเล่นเพลง และปรับความดัง – เบาได้ แบตเตอรี่จุใจใช้งานได้เลยยาว ๆ 10 ชม. ต่อการชาร์จเพียง 1 ครั้ง ถือว่านานมาก สนุกไปกับเสียงที่คมชัดเร้าใจ ในราคาเครื่องละ 2,370 บาท

3. JBL รุ่น Bluetooth JBL CHARGE 5

มาต่อกันที่อีกรุ่นกับ Bluetooth JBL CHARGE 5 ที่เชื่อมต่อได้แบบ Pro Sound ที่เสียงแน่นแม้จะอยู่ในห้องใหญ่ หรือกลางแจ้งก็ไม่หวั่น ได้ยินกันครบ เสียงสุดกระหึ่มที่เป็นไดร์ฟเวอร์แบบใหม่ มี BL Bass Radiators คู่ และทวิตเตอร์แยก สามารถกันฝุ่นได้ระดับ IP67 อยู่ในน้ำลึกสูงสุด 1 เมตร นาน 30 นาที มี Bluetooth 5.1 ที่เชื่อมต่อได้เสถียร และแม่นยำมาก ราคาเครื่องละ 5,940 บาท

4. JBL รุ่น HORIZON 2

เป็นอีกลำโพงบลูทูธพกพา JBL ที่มองข้ามไปได้ไม่เลยจริง ๆ กับรุ่น HORIZON 2 ที่มีการปรับเสียงปลุกของคุณได้ด้วยเสียงที่มีให้หลากหลาย สามารถเพิ่มระดับ JBL Pro Sound ทำให้ห้องมีเสียงดังกระหึ่ม มีแสงที่ช่วยเพิ่มความสวยงามให้กับห้อง ดูห้องมีเสน่ห์ อย่าง Ambient Light มีช่องเสียบ USB จำนวน 2 ช่อง ควบคุมการหมุนแบบ Easy-to-Use Rotary Control Knob สะดวกสบายมากขึ้น สะดวกต่อการใช้งานขั้นสุด ราคาเครื่องละ 4,156 บาท

เมื่อรู้อย่างนี้แล้วก็หวังว่าการเลือกลำโพงแบบพกพาจากยี่ห้อ JBL ของคุณทุก ๆ คนจะผ่านไปได้ด้วยดี ได้ฟังเพลงที่เสียงดังตอบโจทย์ ไม่มีปัญหาขัดข้องกวนใจ ในราคาที่เข้าถึงได้ง่าย ทั้งนี้ ในการใช้งานควรปฏิบัติตามขั้นตอน และข้อควรระวัง พร้อมตรวจสอบสินค้าให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งานก่อนเสมอ
#198


เผื่อว่าใครที่จำเป็นต้องใช้ถุงมือ แต่ด้วยความที่มีให้เลือกหลากหลาย อย่าง ถุงมือยาง + PVC + พลาสติก ซึ่งอาจจะเกิดความสับสน สงสัยว่าประเภทไหนเหมาะกับการนำไปใช้ในงานอะไรบ้าง วันนี้เรามีข้อมูลมาบอกต่อ พร้อมแนะนำยี่ห้อที่น่าสนใจเพื่อการเลือกซื้อที่ตอบโจทย์

ถุงมือยาง + PVC + พลาสติกใช้ในงานอะไร มียี่ห้อไหนน่าสนใจ

1. ถุงมือประเภทยาง

ถือเป็นถุงมือที่ได้รับความนิยมอย่างที่สุดโดยเฉพาะทางการแพทย์ และงานอุตสาหกรรม เพราะด้วยความยาง ใส่แล้วมีความกระชับ จับงานต่าง ๆ ได้ง่าย สะดวก ทั้งบางยี่ห้อก็มีส่วนช่วยป้องกันสารเคมี ป้องกันเชื้อโรคต่าง ๆ รวมถึงความร้อน ที่ไม่ทำให้เกิดอุบัติเหตุจากเครื่องมือ และเป็นฉนวนป้องกันไฟฟ้าได้ดีไปอีก แนะนำยี่ห้อที่น่าสนใจ เช่น

- ยี่ห้อ VETEX ที่ผลิตจากยางธรรมชาติ 100% เหนียว ยืดหยุ่นตามการใช้งาน ปกป้องมือได้จากสารเคมี สิ่งสกปรก ผงซักฟอกที่มีความเข้มข้นสูง สวมใส่สบาย
- ยี่ห้อ POLY-BRITE COMFORT ผลิตจากยางธรรมชาติ 100% มีผ้าฝ้ายเป็นซับในช่วยดูดเหงื่อได้ดี สวมใส่กระชับมากขึ้น ทนทาน สัมผัสอาหารได้ มีลายที่ถุงมือให้การจับถนัดมากขึ้น

2. ถุงมือประเภท PVC

ที่ก็เป็นอีกถุงมือที่ได้รับความนิยม ซึ่งจะเหมาะกับงานที่เจอสารพิษ สารเคมี หรือสารละลายที่เป็นอันตรายต่อมือผู้ใช้งาน ปัจจุบันมีทั้งแบบเรียบ และแบบหยาบ สามารภเลือกใช้ได้ตามลักษณะงานที่เหมาะสม แนะนำยี่ห้อที่น่าสนใจ เช่น

ถุงมือ pvc ยี่ห้อ SHOWA SARATTO TOUCH ที่จะช่วยปกป้องสารเคมีต่าง ๆ ทั้งน้ำยาล้างห้องน้ำ น้ำยาล้างจาน ผงซักฟอก ป้องกันกลิ่นอับ ไม่ทำให้เกิดความชื้น มีความยืดหยุ่นสูง ทนทาน เหนียว
- ยี่ห้อ PVC SHALDAN ที่มีความแข็งแรงเสริมมาให้ช่วงปลายนิ้ว ฉีกขาดยาก เป็น PVC ที่ยืดเกาะได้ดี มีความยืดหยุ่นสูง ไม่ลื่นหลุดจากสิ่งที่จับง่าย ๆ ทนทานต่อสารฟอกขาว สารทำความสะอาด

3. ถุงมือประเภทพลาสติก

ปิดท้ายที่ถุงมือพลาสติกที่มีน้ำหนักเบาที่สุดใน 3 ประเภท ส่วนใหญ่ใช้แล้วก็ทิ้งเลย เพราะกับงานที่มีฝุ่น หรือสิ่งสกปรกที่อาจทำให้ผิวหนังเราแพ้ระคายเคือง รวมถึงใช้หยิบจับบรรจุภัณฑ์ต่าง ๆ หยิบจับอาหารได้ไม่ติดมือ แนะนำยี่ห้อที่น่าสนใจ เช่น

- ยี่ห้อ KIDDYKLEAN FREE ช่วยปกป้องมือจากการสัมผัสผิวที่สกปรกได้ดี ถอดออกง่าย ทิ้งง่าย เหมาะกับการใช้งานทั่วไป มีดีไซน์ลายน่ารัก ๆ ด้วย
- ยี่ห้อ ACCO ที่ผลิตจากพลาสติกคุณภาพดีเยี่ยม ใช้หยิบจับสิ่งของได้ตามต้องการ ช่วยลดการสัมผัสเชื้อโรคที่พื้นผิวมีความสกปรก งานทำความสะอาด งานซ่อมแซม ทำสีผม ทำอาหาร ฯลฯ

ถุงมือยาง + PVC + พลาสติกนั้น มีความสามารถในการใช้งานที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งแต่ละประเภทก็จะมีหลากหลายยี่ห้อให้เราได้เลือกใช้งาน ก็หวังว่าทุก ๆ คนจะสามารถตัดสินใจใช้งานได้อย่างตอบโจทย์ ทำให้การทำงานผ่านไปได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด
#199


ใครที่กำลังมองหาลำโพงที่ใช้งานแบบบลูทูธ หรือพกพาอยู่แต่ไม่รู้ว่าจะตัดสินใจเลือกยี่ห้อไหนดี เราไม่รอช้าที่จะแนะนำให้รู้จักกับยี่ห้อ JBL ที่ผลิตออกมาหลายรุ่นมาก และเพื่อให้การเลือกใช้งานตอบโจทย์ขั้นสุด วันนี้เราจึงได้รวบรวมมาแนะนำกันถึง 4 เครื่องด้วยกัน จะเป็นรุ่นไหน น่าสนใจอย่างไร ไปติดตามกันได้

แนะนำ 4 ลำโพงแบบพกพายี่ห้อ JBL ที่ควรมีติดตัว

1. JBL รุ่น FLIP6

มาเริ่มต้นกันที่รุ่นแรกกับ JBL รุ่น FLIP6 สีน้ำเงิน ที่พร้อมมอบความบันเทิงด้วยระบบ 2 ทิศทาง ที่ได้เสียงชัดเจน เร้าใจ มีระบบกันฝุ่น IP67 ที่สามารถพกพาไปได้ทุกที่ ใช้งานกันยาว ๆ เลยสูงสุด 12 ชม. สามารถเชื่อมต่อลำโพงได้หลายตัวด้วยเทคโนโลยีแบบ JBL Party Boos สามารถวางได้ทั้งแบบแนวตั้งและแนวนอน ราคาอยู่ที่เครื่องละ 4,410 บาท

2. JBL รุ่น CLIP4

ลำโพงบลูทูธ JBL รุ่น CLIP4 ที่เป็นรูปแบบการเชื่อมต่อสตรีมเพลงไร้สายจะมือถือ แท็ปเล็ต หรืออุปกรณ์อื่น ๆ ได้เลยที่ต่อผ่านบลูทูธได้ มีดีไซน์ลำโพงที่ทันสมัยสวยงาม มีคลิปคล้องขนาดใหญ่ พกพาสะดวก ควบคุมการเล่นเพลง และปรับความดัง – เบาได้ แบตเตอรี่จุใจใช้งานได้เลยยาว ๆ 10 ชม. ต่อการชาร์จเพียง 1 ครั้ง ถือว่านานมาก สนุกไปกับเสียงที่คมชัดเร้าใจ ในราคาเครื่องละ 2,370 บาท

3. JBL รุ่น Bluetooth JBL CHARGE 5

มาต่อกันที่อีกรุ่นกับ Bluetooth JBL CHARGE 5 ที่เชื่อมต่อได้แบบ Pro Sound ที่เสียงแน่นแม้จะอยู่ในห้องใหญ่ หรือกลางแจ้งก็ไม่หวั่น ได้ยินกันครบ เสียงสุดกระหึ่มที่เป็นไดร์ฟเวอร์แบบใหม่ มี BL Bass Radiators คู่ และทวิตเตอร์แยก สามารถกันฝุ่นได้ระดับ IP67 อยู่ในน้ำลึกสูงสุด 1 เมตร นาน 30 นาที มี Bluetooth 5.1 ที่เชื่อมต่อได้เสถียร และแม่นยำมาก ราคาเครื่องละ 5,940 บาท

4. JBL รุ่น HORIZON 2

เป็นอีกลำโพงบลูทูธพกพา JBL ที่มองข้ามไปได้ไม่เลยจริง ๆ กับรุ่น HORIZON 2 ที่มีการปรับเสียงปลุกของคุณได้ด้วยเสียงที่มีให้หลากหลาย สามารถเพิ่มระดับ JBL Pro Sound ทำให้ห้องมีเสียงดังกระหึ่ม มีแสงที่ช่วยเพิ่มความสวยงามให้กับห้อง ดูห้องมีเสน่ห์ อย่าง Ambient Light มีช่องเสียบ USB จำนวน 2 ช่อง ควบคุมการหมุนแบบ Easy-to-Use Rotary Control Knob สะดวกสบายมากขึ้น สะดวกต่อการใช้งานขั้นสุด ราคาเครื่องละ 4,156 บาท

เมื่อรู้อย่างนี้แล้วก็หวังว่าการเลือกลำโพงแบบพกพาจากยี่ห้อ JBL ของคุณทุก ๆ คนจะผ่านไปได้ด้วยดี ได้ฟังเพลงที่เสียงดังตอบโจทย์ ไม่มีปัญหาขัดข้องกวนใจ ในราคาที่เข้าถึงได้ง่าย ทั้งนี้ ในการใช้งานควรปฏิบัติตามขั้นตอน และข้อควรระวัง พร้อมตรวจสอบสินค้าให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งานก่อนเสมอ
#200
ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ รับดูแลผู้ป่วยพักฟื้น ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยติดเตียง รูปแบบบริการมีทั้งแบบรายวัน รายสัปดาห์ และรายเดือน มีกิจกรรมบำบัด ออกกำลังกาย และดูแลโภชนาการของผู้สูงอายุ หรือผู้ป่วย โดย มายลักษณ์เนอร์สซิ่งโฮม

ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ มายลักษณ์เนอร์สซิ่งโฮม



ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุมีบริการและสิ่งอำนวยความสะดวกมากมายสำหรับการรับดูแลผู้ป่วยพักฟื้นตัวจากการเจ็บป่วย สิ่งเหล่านี้รวมถึงการดูแลพยาบาลที่มีทักษะ การบำบัดทางกายภาพ การพูด การจัดการยา กิจกรรมทางสังคมและสันทนาการ อาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการและการสนับสนุนด้านอาหาร ความช่วยเหลือเกี่ยวกับกิจกรรมประจำวัน การดูแลที่บ้านพักรับรอง การประสานงานการดูแล บริการเหล่านี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อช่วยให้ผู้ป่วยฟื้นคืนความแข็งแรง ความคล่องตัว และความเป็นอิสระ ขณะเดียวกันก็ตอบสนองความต้องการด้านอารมณ์ สังคม และอาหาร ผู้ป่วยสามารถคาดหวังการดูแลทางการแพทย์ตลอด 24 ชั่วโมงและความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่พยาบาลที่ผ่านการฝึกอบรม เจ้าหน้าที่ยังทำงานร่วมกับผู้ป่วย ครอบครัว และแพทย์เพื่อให้แน่ใจว่าทุกคนได้รับทราบข้อมูลและมีส่วนร่วมในกระบวนการฟื้นฟู การวิจัยและเยี่ยมชมศูนย์ดูแลผู้สูงอายุเป็นสิ่งสำคัญก่อนตัดสินใจ

บริการรับดูแลผู้ป่วยพักฟื้นจากมายลักษณ์เนอร์สซิ่งโฮม



การดูแลผู้สูงอายุ (ผู้สูงอายุที่ช่วยตนเองได้)

- ดูแลการขับถ่าย
- วัดไข้ วัดความดัน
- ดูแลกิจวัตรประจำวันทั่วไป อาบน้ำ-เช็ดตัว เปลี่ยนเสื้อผ้า
- มีกิจกรรมร่วมกับผู้สูงอายุ การพูดคุย อ่านหนังสือให้ผู้ป่วยฟัง การฟังดนตรี การร้องเพลง และการทำกายภาพบำบัดเบื้องต้น
- มีกิจกรรมนอกสถานที่ เดินสวนสาธารณะ ที่ปลอดภัย เพื่อเปลี่ยนบรรยากาศ โดยมีรถตู้ของเราและเจ้าหน้าที่ติดตามไปด้วย ตามความเหมาะสม
- วางแผนเมนูอาหารและ จัดอาหารให้เหมาะสมกับความต้องการของร่างกาย หรือ ตามโรค หรือตามโรคของผู้สูงอายุ ซึ่งจัดอาหารให้ สะอาด ถูกสุขอนามัย ทำใหม่ๆ ทุกมื้อ ทั้งอาหารธรรมดา อาหารปั่นตามสูตรที่ผู้สูงอายุทาน
- คอยสังเกตดูอาการของผู้ป่วยทุกวัน ในกรณีผิดสังเกตจะแจ้งให้ญาติทราบทันที

การดูแลผู้สูงอายุ (ผู้ป่วยพักฟื้นที่ต้องการความช่วยเหลือและดูแลเป็นพิเศษ)

- ดูแลการพลิก ตะแคงตัวทุก ๆ 2 ชั่วโมง
- ดูแลการกระตุ้น การรับผู้ของผู้ป่วยด้านสมองในรายที่มีความผิดปกติทางสมอง
- กระตุ้นการช่วยเหลือตนเองของผู้สูงอายุ ผู้ป่วย ให้ฟื้นฟูสภาพตามความเหมาะสม
- กิจกรรมสันทนาการต่าง ๆ เช่นการฟังเพลง ร้องเพลง
- กิจกรรมด้านศาสนา เช่น การทำใส่บาตร ฟังธรรมะ
- การบริการโดยมีแพทย์มาตรวจและให้คำปรึกษา ฟรี สัปดาห์ละ อย่างน้อย 1 ครั้ง

สมุดบันทึกรายงานผู้สูงอายุดุจคล้ายแฟ้มประวัติการดูแลผู้ป่วยในโรงพยาบาล



กิจกรรมอื่น ๆ

- การทำกายภาพบำบัดเพื่อฟื้นฟูสุขภาพเบื้องต้น
- การออกกำลังกาย การบริหารปอด ทุกวัน
- การทำกิจกรรมบำบัด
- ดนตรีบำบัด
- ศิลปะบำบัด
- นวดแผนไทย นวดฝ่าเท้า

การบริการพิเศษ

- เล่มประวัติการดูแลสุขภาพ
- แฟ้มการทำกายภาพบำบัดรายบุคคล
- แฟ้มการสังเกตอาการ เพื่อสะดวกในการพบแพทย์ตามนัด หรือพบแพทย์ในกรณีฉุกเฉิน

กิจกรรมอื่น ๆ

- การทำกายภาพบำบัดเพื่อฟื้นฟูสุขภาพเบื้องต้น
- การออกกำลังกาย การบริหารปอด ทุกวัน
- การทำกิจกรรมบำบัด
- ดนตรีบำบัด
- ศิลปะบำบัด
- นวดแผนไทย นวดฝ่าเท้า
- การบริการพิเศษ
- เล่มประวัติการดูแลสุขภาพ
- แฟ้มการทำกายภาพบำบัดรายบุคคล
- แฟ้มการสังเกตอาการ เพื่อสะดวกในการพบแพทย์ตามนัด หรือพบแพทย์ในกรณีฉุกเฉิน

ใครที่สามารถให้ MY LUCK ดูแลได้บ้าง

- ผู้ป่วยเส้นเลือดหัวใจตีบ
- ผู้ป่วยระยะพักฟื้น
- ผู้ป่วยสมองเสื่อม อัลไซเมอร์
- ผู้ป่วยอัมพฤกษ์, อัมพาต
- ผู้ป่วยให้อ๊อกซิเจน
- ผู้สูงอายุ ที่ต้องการการดูแลเพื่อการฟื้นฟูสุขภาพอย่างใกล้ชิด
- ผู้สูงวัยที่ช่วยเหลือตัวเองได้และ
- ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเอง
- ผู้ป่วยภายหลังการผ่าตัดที่ต้องการฟื้นฟู

เอกสารที่ใช้ในการเข้าพัก

- สำเนาบัตรประชาชนจำนวน 2 ชุด
- สำเนาทะเบียนบ้าน
- สำเนาทะเบียนบ้าน
- เอกสารที่เกี่ยวข้องกับสิทธิทางการรักษาพยาบาล เช่น ใบรับรองสิทธิ์จากหน่วยงานที่ผู้ป่วย ผู้สูงอายุสามารถ- - ใช้สิทธิ์การรักษาพยาบาลทางการแพทย์

รูปแบบการให้บริการ
บริการห้องพักสำหรับรับดูแลผู้ป่วย และดูแลผู้สูงอายุมี 2 รูปแบบ คือ แบบห้องพักรวม และ ห้องพัก 4 เตียง

- ดูแลแบบรายวัน 
- ดูแลแบบรายสัปดาห์
- ดูแลแบบรายเดือน

ติดต่อได้ที่ 

- เว็บไซต์: mylucknursinghome.com
- ที่อยู่: Myluck Nursing home (มายลักษณ์เนอร์สซิ่งโฮม) บ้านเลขที่ 16 ซ.ประชาอุทิศ 45 ถ.ประชาอุทิศ แขวงบางมด เขตทุ่งครุ กรุงเทพมหานคร 10140
- อีเมล: mylucknursinghome@hotmail.com
- โทร: 02-0019720 , 084-1612333 , 081-6573328
#201


ก่อนที่จะเลือกซื้อผลิตภัณฑ์กันยุงทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็น สเปรย์กันยุง หรือยาจุด หรือจริง ๆ รวมถึงแมลงต่าง ๆ แล้วนั้น ควรพิจารณาถึงคุณสมบัติที่เหมาะสมด้วย เพื่อให้การนำมาใช้งานจัดการยุง แมลงต่าง ๆ อย่างมีประสิทธิภาพ ว่าแต่จะต้องมีคุณสมบัติอะไรบ้างนั้น เชื่อว่าหลายคนอยากรู้แล้ว และไม่รอช้าที่จะพาไปศึกษาอย่างหมดเปลือก

คุณสมบัติของสเปรย์กันยุง ยาจุด ที่ควรรู้เพื่อการนำมาใช้

1. มีสารสกัดธรรมชาติเป็นส่วนประกอบ

อย่างแรกเพื่อความปลอดภัยไม่มากก็น้อยในเรื่องของส่วนประกอบของผลิตภัณฑ์ควรเป็นสารสกัดจากธรรมชาติ อย่างตะไคร้หอม หรืออื่น ๆ มีความสามารถในการจัดการแมลงสาบ ยุง มดได้อย่างดี มีความปลอดภัยขั้นสุด ไม่เป็นอันตรายต่อผู้ใช้งานเอง

2. มีกลิ่นที่ไม่ฉุนมาก

เป็นอีกคุณสมบัติที่ควรมีอย่างที่สุดเลยก็คือเรื่องของกลิ่นที่เมื่อเราฉีด หรือใช้ยาจุดกันยุงไปแล้ว ต้องไม่ทำให้เกิดกลิ่นฉุนมากเกินไป ควรเป็นกลิ่นหอมเรื่อย ๆ ที่ไม่แสบจมูกมาก เช่น กลิ่นเลม่อน กลิ่นลาเวนเดอร์ ฯลฯ ไม่เป็นอันตรายต่อโพรงจมูกไปได้

3. หากเป็นหัวสเปรย์ควรกดฉีดง่าย

หากเป็นการเลือกใช้เป็นในส่วนของสเปรย์กำจัดยุง หรือสเปรย์กำจัดแมลงร่วมด้วยก็ตาม การใช้งานในส่วนของหัวฉีดควรกดง่าย ไม่พุ่งกระจายมากเกินไป ฉีดได้เร็ว แรง ในระยะที่ออกไกลได้ สามารถจัดการยุง หรือแมลงต่าง ๆ ได้อย่างแม่นยำ เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพการกำจัดที่รวดเร็ว

4. หากเป็นยาจุดควรจุดติดง่าย แยกขดง่าย

และถ้าหากเป็นในส่วนของยาจุดด้วยแล้วนั้นก็ควรจะเป็นการจุดที่ติดได้ง่าย ไม่ต้องเอาไฟไปลนนานมาก สามารถปกป้องได้ยาวนานต่อเนื่อง หรือบางยี่ห้อก็เป็นรุ่นควันน้อยก็มี ก็จะไม่ฟุ้งมาก หายใจสะดวกขึ้น ที่สำคัญการแยกขดควรทำได้ง่าย ไม่ติดกันเกินไปและไม่แตกหักได้ง่าย ๆ ด้วย ใช้งานได้สะดวกขั้นสุด

5. มีพลังปกป้องยาวนานดี

สุดท้ายก็คือเรื่องของพลังการปกป้องที่ควรเป็นไปได้อย่างยาวนาน อย่างน้อย ๆ ก็ 24 ชม. หรือบางยี่ห้อยาวนานถึง 48 ชม. ก็มี ไม่จำเป็นต้องฉีดพ่น หรือจุดยากันยุงทิ้งไว้ทุกวันทั้งวันเลยด้วย ไม่ทำให้เราเสียเวลาใช้งาน รวมถึงลดความเสี่ยงไฟลุกไหม้ไปอีก

กระนั้นในส่วนของการใช้งานสเปรย์กันยุง แมลง หรือจะเป็นแบบยาจุดขดกันยุงก็ตาม ควรศึกษาข้อควรระวังต่าง ๆ ให้ดีด้วย เพื่อลดความเสี่ยงใช้งานผิดประเภท หรือมีพฤติกรรมความเสี่ยงอื่น ทำให้ต้องเกิดปัญหาตามมาได้ แต่ละยี่ห้อ แต่ละประเภทก็จะมีทั้งขนาด และราคาที่ต่างกัน แนะนำว่าให้อ่านข้อมูลอย่างละเอียดก่อนซื้ออีกครั้งด้วย
#202


หากจะเอ่ยถึงวัสดุหลักที่ใช้ทำฝ้าเพดาน ฝาผนังต่าง ๆ แล้ว ปฏิเสธไม่ได้ว่า ยิปซั่มแผ่น (Gypsum) – สมาร์ทบอร์ด มักถูกนึกถึงมากที่สุด แต่ถึงแม้ทั้งคู่จะดูคล้ายกัน แต่จริง ๆ แล้วก็มีความต่างที่หลากหลายแง่มุมการนำไปใช้มาก และหากคุณจำเป็นจะต้องใช้งานทั้ง 2 อย่างแล้วนั้น จำเป็นต้องรู้ความต่างทั้งคุณสมบัติ พื้นที่ใช้สอย และการติดตั้งกันหน่อย

ยิปซั่ม VS สมาร์ทบอร์ด ความแตกต่างหลากหลายแง่มุม

1. ด้านคุณสมบัติ

แผ่น Gypsum : จะมีลักษณะเป็นส่วนผสมของแร่ Gypsum ที่นำมาขึ้นเป็นแผ่น แล้วใช้กระดาษเหนียวประกบทับอัดแน่นทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ทำให้ผิวเรียบเนียนสม่ำเสมอกันหมด มีน้ำหนักเบา แต่ก็แข็งแรงทนทาน มีหลากหลายชนิดให้เลือกไม่ว่าจะเป็นรุ่นมาตรฐาน รุ่นกันร้อน รุ่นทนชื้น รุ่นทนไฟ รุ่นลดเสียงสะท้อน ฯลฯ

สมาร์ทบอร์ด :จะเป็นหลักษณะของแผ่นไฟเบอร์ซีเมนต์ที่มีคุณภาพสูงด้วยส่วนประกอบหลายอย่างที่มีประสิทธิภาพ จากนั้นก็จะนำไปผ่านกระบวนการอบไอน้ำแรงดันสูง ทำให้ไม่แตกหักได้ง่าย มีความแข็งแรงทนทาน ทนได้ทั้งฝนและแดด ปลวกไม่กัดกินได้ ซึ่งก็มีหลายรุ่นให้เราเลือกด้วยเช่นกัน

2. พื้นที่ใช้สอย

แผ่น Gypsum : จะเหมาะกับงานฝ้าเพดาน หรือผนังภายในมากกว่า ด้วยความที่เรียบสวยงาม ดูแล้วเป็นระเบียบ ฝุ่นน้อย ใช้คัตเตอร์ตัดแต่งได้ง่าย เจาะก็ง่ายอีก ไม่ว่าจะเป็นฝ้าเพดาน ผนังห้องนอน ฝ้าหลุม ฝ้าเล่นระดับในห้องนั่งเล่น ฝ้าชายคา ฯลฯ

แผ่นสมาร์ทบอร์ด : จะเหมาะกับพื้นที่ที่ต้องการความทนทานพิเศษ มีส่วนช่วยรับแรงกระแทกได้ดี ไม่แตกหักง่าย ทนทาต่อฝนและแดด ปลวกไม่สามารถกัดกินได้ นำไปใช้งานได้ทั้งภายในและภายนอกบ้าน ไม่ว่าจะเป็นฝ้าภายนอก ผนังตกแต่งภายนอก ฝ้าชายคา ฯลฯ

3. การติดตั้ง

แผ่นยิปซั่ม Gypsum : จะเหมาะกับการติดตั้งแบบฉาบเรียบ โดยเริ่มตั้งแต่การติดตั้งโครงคร่าว และตัวแผ่นที่ต้องการ จากนั้นก็ทำการฉาบรอยต่อของแผ่นได้เลย รวมถึงตรงส่วนหัวสกรูก็ต้องฉาบปูนเฉพาะของแผ่น Gypsum โดยเฉพาะ จากนั้นก็เอาสีน้ำอะคริลิกทาทับสร้างความสวยงาม

สมาร์ทบอร์ด : สามารถติดตั้งได้ในรูปแบบเส้นร่อง โดยอุดร่องรอยต่อที่มีระหว่างแผ่นด้วยกาวยาแนวโพลียูริเทน ส่วนเก็บหัวสกรูก็ใช้เป็นกาวยาแนวอะคริลิก แล้วทาสีอะคริลิกทับอีกที หรือจะเอากระเบื้อง เอาแผ่นลามิเนตมาปิดผิววัสดุอีกทีก็ได้ หรือจะติดตั้งรูปแบบฉาบเรียบก็ได้เช่นกัน

และทั้งหมดนี้ก็เป็นความต่างในหลายแง่มุมของการใช้งานยิปซั่มแผ่น และสมาร์ทบอร์ด โดยที่มีความต่างตั้งแต่เรื่องคุณสมบัติ พื้นที่ใช้สอย การติดตั้ง ที่หากเราจะใช้กับที่ไหนสักแห่งก็ควรเลือกให้ตอบโจทย์การใช้งานที่สุด เพื่อให้มีอายุการใช้งานยืนยาว ไม่เกิดปัญหาต่าง ๆ ตามมาภายหลัง
#203


วันนี้เรามีน้ำยาทำความสะอาดที่ควรเลือกซื้อมาใช้งานที่สุดแนะนำทุก ๆ  คนกัน สร้างความเข้าใจ เพื่อการนำไปใช้อย่างถูกต้อง เหมาะสมที่สุด โดยรวบรวมมาให้ถึง 5 ยี่ห้อด้วยกัน แต่จะเป็นการทำความสะอาดแบบไหน มีความน่าสนใจอย่างไรบ้างนั้น ไปติดตามกันได้เลย

5 น้ำยาทำความสะอาดที่ควรซื้อมาใช้งานมากที่สุด

1. น้ำยาดันฝุ่นพื้น DAIWA

ผลิตภัณฑ์แรกเป็นน้ำยาดันฝุ่นที่ช่วยให้ฝุ่นละอองออกไปอย่างหมดจด ไม่ว่าจะเป็นพื้นกระเบื้อง ปาร์เกต์ หินขัด หินอ่อน หรือหินแกรนิตได้เลย พร้อมมอบความสะอาดให้เต็มที่ กลิ่นหอม เพิ่มความเงางามได้ดีเยี่ยม พื้นผิวที่ทำความสะอาดไม่เป็นอันตรายต่อผู้ใช้งานเอง และพื้นผิว ขนาด 3,500 มล. ราคา 426 บาท

2. น้ำยารีฟิลถูพื้น โทมิ สปริงซากุระ

ต่อมาเป็นน้ำยาถูพื้นแบบรีฟิลหรือถุงเอาไปเติมเองได้ ของยี่ห้อโทมิ สปริงซากุระ ที่มีส่วนช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรียได้ 99.9% ที่ Hygienic Plus พร้อมจัดการทำความสะอาดพื้นได้อย่างดี แห้งไวมาก 25 วินาทีเท่านั้น ไม่ทิ้งความเหนียวเหนอะหนะกวนใจ โดยที่สามารถใช้งานทั้งพื้นหินอ่อน พื้นหินแกรนิต พื้นผิวทั่วไป พื้นไม้ ขนาด 750 มล. ราคาถุงละ 30 บาท

3. แวกซ์เคลือบพื้น SHINY WAX

เป็นอีกยี่ห้อที่ไม่ควรพลาดไปกับแวกซ์เคลือบพื้น SHINY WAX ที่เป็นสูตรน้ำแห้งไว ให้ความเงางามอย่างดีและไม่ทิ้งความเนหนียวเหนอะหนะด้วย ช่วยปกป้องพื้นผิวในบ้านอย่างดี ยืดอายุการใช้งานยาวนานขึ้น ใช้ได้ทั้งพื้นหินอ่อน กระเบื้องยาง หินขัด พื้นไม้ กระเบื้องเคลือบ ปาร์เกต์ ฯลฯ ขนาด 1 ลิตร ราคา 350 บาท

4. น้ำยาขจัดคราบฝังแน่นห้องน้ำ FARCENT

น้ำยาล้างห้องน้ำที่ช่วยจัดการคราบฝังแน่นภายในพื้นห้องน้ำได้ดี คราบเหลืองสกปรกที่ยาแนวกระเบื้อง หรือคราบเหลืองในโถส้วม เอาแปรงมาขัดถูกก็หาย กลิ่นไม่ฉุน เพิ่มความสะอาดมากขึ้น และใช้งานง่ายขึ้นไม่ต้องทิ้งไว้ข้ามคืน ขนาด 900 มล. ราคา 31 บาท (เฉพาะทางออนไลน์)

5. น้ำยาเก็บฝุ่นและเคลือบเงา SWASH พิงค์ลิลลี่บูเก้

ปิดท้ายกันที่อีกน้ำยาช่วยทำความสะอาดที่มาในรูปแบบถังแกลลอน ช่วยเก็บฝุ่นละอองตามพื้นได้ดี ให้ความหอมสดชื่น เพิ่มความสะอาด เคลือบผิวสะท้อนเป็นประกายเงางาม แห้งไว เหมาะกับพื้นลามิเนต หรือพื้นปาร์เกต์ ขนาด 4,000 มล. ราคา 599 บาท

และทั้งหมดนี้ก็เป็นความน่าสนใจของผลิตภัณฑ์น้ำยาทำความสะอาดที่เราอยากแนะนำให้ได้รู้จัก เพื่อเป็นอีกทางเลือกในการนำไปใช้งานได้ตอบโจทย์ประเภทงานทำความสะอาดมากที่สุด ซึ่งก็มีให้เลือกหลากหลายนำไปใช้ได้ตามพื้นต่าง ๆ ไม่เกิดปัญหาตามมาภายหลัง ซึ่งหากใครได้ลองใช้งานแล้วได้ผลลัพธ์เป็นอย่างไรอยากมาเล่าสู่กันฟังก็ทำได้เลย เรายินดีเป็นอย่างมาก
#204


เชื่อว่าการใช้งานน้ำยาขจัดคราบที่มีความสามารถเพิ่มเติมอย่าง ดับกลิ่นด้วย ฆ่าเชื้ออเนกประสงค์ได้ด้วย คงกำลังเป็นที่นิยมอย่างมาก และก็เป็นเรื่องจริงที่ปฏิเสธไม่ได้ ซึ่งหากจะซื้อผลิตภัณฑ์มาใช้ ก็มักจะได้รับคำแนะนำให้เลือกECOLAB RTU ทว่ามีเหตุผลใดที่ช่วยสนับสนุนบ้าง ไม่รอช้ามีมาแนะนำเช่นเคย

เหตุผลที่ควรใช้น้ำยาขจัดคราบยี่ห้อ ECOLAB RTU

ต้องบอกเลยว่า ECOLAB RTU เป็นอีกหนึ่งน้ำยาช่วยทำความสะอาด ช่วยขจัดคราบที่มาในรูปแบบสเปรย์ ทำให้การใช้งานง่ายมากขึ้น สามารถฉีดได้เลยพร้อมใช้ ปลอดภัย ไม่ต้องใช้น้ำล้างใด ๆ เพราะแค่เราฉีดแล้วเช็ดพื้นที่มีสิ่งสกปรก มีกลิ่นเกาะอยู่ ก็สามารถจัดการให้กลับมาสะอาดเหมือนใหม่แล้ว

นอกจากจะช่วยขจัดคราบสิ่งนี้ก็ยังถือเป็นสเปรย์ฆ่าเชื้ออเนกประสงค์ในคราวเดียวด้วย ไม่ว่าจะนำไปใช้กับลูกบิดประตู ภายในลิฟต์ โต๊ะรับประทานอาหาร หรือพื้นผิวสัมผัสที่มีอาหารวางก็ได้ ใช้กับที่พัก หรืออาคารสำนักงานได้หมด ฉีดเช็ดแล้วไม่ต้องเอาน้ำมาล้างตามแต่อย่างใดด้วย เพิ่มความสะดวกสบายได้ทุกที่ทุกเวลาไม่จำกัด

- เป็นผลิตภัณฑ์ที่ช่วยฆ่าเชื้อได้ภายใน 15 วินาที ส่วนการฆ่าเชื้อโรคอื่น ๆ แค่ 1 นาทีก็จัดการเสร็จสิ้น
- เป็นผลิตภัณฑ์ที่ช่วยขจัดคราบ ดับกลิ่น และฆ่าเชื้ออเนกประสงค์ในคราวเดียวกัน
- เป็นหัวฉีดสเปรย์ดับกลิ่น ฆ่าเชื้อ ขจัดคราบที่ใช้งานได้สะดวกสบาย นำไปฉีดที่ไหนได้หมดทุกที่ไม่ปิดกั้น
- ปลอดภัย คุณสามารถนำไปใช้ได้กับทุกพื้นผิวที่ต้องสัมผัสอาหาร ไม่จำเป็นต้องล้างน้ำตาม เช็ดแล้วใช้วางอาหารได้เลย มีการรองรับจากประเทศสหรัฐอเมริกา โดย EPA No. 1677-259

ข้อมูลการใช้งานเพิ่มเติมที่น่าสนใจ

เผื่อว่าใครอยากได้คำแนะนำเพิ่มเติมเกี่ยวกับการใช้งานก็ต้องบอกเลยว่าง่ายมาก เพียงคุณฉีดพ่นไปบนพื้นผิวที่ต้องการทำความสะอาด หรือที่ต้องการฆ่าเชื้อ จากนั้นก็ปล่อยทิ้งไว้ 5 นาที พร้อมใช้ผ้าสะอาดมาเช็ดออก โดยที่เว้นระยะห่างในการฉีดพ่น 30 ซม. แล้วฉีดพ่นค้างไว้ 10 วินาที

ทั้งนี้มีสิ่งที่ต้องระวังในการใช้งานอยู่ด้วย ที่แน่ ๆ คือห้ามกินอยู่แล้ว และต้องเก็บให้พ้นมือเด็ก สัตว์เลี้ยง รวมถึงแสงแดด ระวังไม่ให้เข้าตา หากเข้าก็ต้องล้างด้วยน้ำสะอาดจนหายระคายเคือง หรือทุเลาลง ที่สำคัญต้องเก็บให้ห่างจากบริเวณที่ความร้อนสูง หรือห่างจากเปลวไฟด้วย

น้ำยาขจัดคราบ ดับกลิ่น รวมถึงฆ่าเชื้ออเนกประสงค์ ECOLAB RTU แบบสเปรย์นี้ คงเป็นทางเลือกในการจัดการสิ่งสกปรกให้ห่างไกลได้ดี โดยที่มีขนาด 500 มล. ในราคา 335 บาท ใครที่ทำอาหารบ่อย หรือมีสิ่งสกปรกมาเกาะติดเยอะเป็นประจำ ต้องมีสักขวดไว้ใช้งานแล้วจริง ๆ ห้ามมองข้ามเด็ดขาด
#205


ใครที่กำลังมองหาน้ำยาประสานคอนกรีต – กันรั่วซึมอยู่ แต่ไม่รู้จะเลือกประเภทไหนไปใช้ดี ไม่รู้ว่าคุณสมบัติที่น่าสนใจอะไรบ้าง เพื่อการนำไปใช้อย่างเหมาะสมรีบตามเรามาทางนี้เลย เพราะเราได้รวบรวมมาแนะนำด้วยกันถึง 4 ผลิตภัณฑ์ ซึ่งจะเป็นผลิตภัณฑ์ที่คุ้นเคยกันดีหรือไม่ ไปติดตามได้เลย

แนะนำ 4 ผลิตภัณฑ์น้ำยาประสานคอนกรีต – กันรั่วซึม

1. น้ำยาช่วยประสานคอนกรีตตราช่างใหญ่ FLEX-77

มีส่วนช่วยในการประสานหรือยึดเกาะคอนกรีตระหว่างของเก่าและของใหม่ สร้างความแข็งแรง ทนทานต่อมลภาวะต่าง ๆ ได้อย่างดี ช่วยเพิ่มความต้านทานแรงดัด ป้องกันการแตกร้าวได้ดีมากด้วย เหมาะกับการใช้ในงานปูกระเบื้อง งานฉาบ หรือเททับคอนกรีตใหม่บนพื้นเดิม ปรับระดับพื้น ไม่ทำให้ปูนหลุดร่อน พร้อมกันซึมได้ดีไปอีก มีขนาด 5 กก. ราคา 1,039 บาท

2. น้ำยาผสมกันรั่วซึม ตราจระเข้ ADMIX PROOF

ต่อกันที่น้ำยากันซึมตราจระเข้ ADMIX PROOF ที่สามารถผสมกับพื้นปูนป้องกันการรั่วซึมได้ เพิ่มคุณสมบัติการซึมได้ดี ลดปริมาณน้ำที่ใช้ผสมพื้น ทำให้พื้นปูนคอนกรีตแน่นหนามากขึ้น ทำให้คอนกรีตมีกำลังมากขึ้น เหมาะกับงานโครงสร้างคอนกรีตที่สัมผัสน้ำโดยตรง อย่าง บ่อเก็บน้ำ ห้องน้ำ หรือสระว่ายน้ำ ไม่ทำให้คอนกรีตแตกร้าว หรือแห้งแล้วจะหดตัว หรือแข็งตัว มีขนาด 5 ลิตร ราคา 168 บาท

3. น้ำยาช่วยประสานคอนกรีต LANKO 751

ต่อมาเป็นผลิตภัณฑ์ของ LANKO 751 ที่ช่วยประสานคอนกรีต เพิ่มความสามารถในการยึดเกาะของเก่าและของใหม่ได้ดี ลดการหดตัว รอยแตกร้าวที่พื้น ไม่ทำให้รั่วซึม และยังช่วยขัดสี นอกจากนี้ยังป้องกันชิ้นงานหลุดร่อน หรือผสมปูนเพื่อป้องกันการแตกร้าวได้ด้วย เหมาะกับการนำมาใช้งานอย่างที่สุด โดยมีขนาด 1 ลิตร ราคา 213 บาท

4. น้ำยาผสมคอนกรีตกันรั่วซึม BESBOND

ปิดท้ายกันที่ผลิตภัณฑ์น้ำยาผสมคอนกรีตกันรั่วซึม BESBOND ที่มีส่วนช่วยลดปริมาณน้ำที่ใช้ในการผสมคอนกรีตหรือซีเมนต์ได้ดี ทำให้มีความหนาแน่นมากขึ้น ช่วยเพิ่มกำลังให้แข็งแรง ช่วยกันรั่วซึม ไม่ว่าจะเป็นคอนกรีต หรือปูนฉาบ ลดรูพรุนที่มาจากการกระจายตัวไม่สม่ำเสมอได้ดี เหมาะกับงานที่สัมผัสน้ำโดยตรง เช่น บ่อเก็บน้ำ สระว่ายน้ำ หรือห้องน้ำ โดยมีขนาด 5 ลิตร ราคา 258 บาท

และทั้งหมดนี้ก็เป็นบรรดาผลิตภัณฑ์น้ำยาประสานคอนกรีต – กันรั่วซึม ที่น่าสนใจ พร้อมให้คุณซื้อไปใช้งานตอบโจทย์มากที่สุด กระนั้นอยากแนะนำให้อ่านและปฏิบัติตามวิธีการใช้งาน ข้อแนะนำ และคำเตือนต่าง ๆ ที่ระบุไว้ข้างบรรจุภัณฑ์ให้ละเอียด เลือกใช้งานให้ถูกต้อง ทั้งนี้ ต้องระวังในเรื่องการจัดเก็บที่ให้พ้นมือเด็ก สัตว์เลี้ยง และอยู่ในพื้นที่ที่มีอุณหภูมิเหมาะสม ห้ามดัดแปลง แก้ไข และใช้สินค้าผิดประเภท หวังว่าการประสานคอนกรีต การกันรั่วซึมจะผ่านไปได้ด้วยดีมีประสิทธิภาพขั้นสุด
#206


หากคุณเป็นคนหนึ่งที่มีความสนใจอยากซื้อเครื่องฉีดน้ำมาใช้งาน อย่าเพิ่งรีบด่วนตัดสินใจไปได้ เพราะก่อนจะซื้อมีสิ่งที่ควรต้องพิจารณาอยู่ด้วย และเพื่อให้การเลือกซื้อใช้งานผ่านไปได้ราบรื่นมากที่สุด เราไม่รอช้าที่จะพาทุก ๆ คนไปศึกษาพร้อมกันอย่างละเอียด ซึ่งจะมีอะไรบ้างนั้นไปติดตามได้

ก่อนตัดสินใจเลือกซื้อเครื่องฉีดน้ำต้องพิจารณาสิ่งเหล่านี้

1. เรื่องของ Flow น้ำ และแรงดัน

อย่างแรกที่ต้องเข้าใจก่อนหากสนใจเลือกเป็นเครื่องฉีดน้ำแรงดันสูง ก็ต้องพิจารณาเรื่องของสเปคเครื่องฉีด ต่อมาคือแรงดันที่จะมีหน่วยเป็น PSI หรือเป็น BAR โดยที่ส่วนใหญ่จะบ่งบอกถึงความแรงได้อย่างดี กระนั้นเรื่อง Flow น้ำก็สำคัญ เพราะหากมีแรงดันสูงจริงแต่ Flow ไม่เพียงพอ ก็ฉีดได้ไม่แรงเท่าที่ควร แต่หากเป็น Flow น้ำลิตรเยอะ ขดลวดใหญ่เพราะกำลังดึงน้ำมาก ราคาก็จะแพงตามไปด้วย

2. ประเภทของมอเตอร์

สิ่งต่อมาที่มองข้ามไปไม่ได้ก็คือเรื่องของมอเตอร์ ที่โดยทั่วไปแล้วจะแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ

- มอเตอร์ไร้แปรงถ่าย หรือเหนี่ยวนำ : ที่จะใช้งานได้ยาวนาน ทนทาน กินไฟน้อย แต่ก็จะมีน้ำหนักมาก และราคาสูงกว่าแบบปกติ
- มอเตอร์แปรงถ่าย หรือ ยูนิเวอเซล มอเตอร์ : ที่จะมีน้ำหนักเบา ใช้แบบต่อเนื่องได้ไม่นานมาก โดยเฉพาะแบบอะลูมิเนียม ทั้งมีรอบหมุนสูง และเสียงค่อนข้างดัง

3. งบประมาณที่มี

เรื่องงบประมาณที่เรามีต้องสอดคล้องกับราคาเครื่องที่ต้องการด้วย หากเป็นแบบเครื่องแรงดันสูงมีสาย ก็จะถูกกว่าเครื่องฉีดน้ำแรงดันสูงไร้สาย เพราะจะเคลื่อนย้ายได้สะดวกสบายมากขึ้น แต่กระนั้นก็ต้องคำนึงถึงการใช้งาน และวัสดุที่ทำด้วย เพราะหากเป็นสิ่งที่มีคุณภาพราคาก็จะสูงตาม ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องดูที่ความเหมาะสมในการใช้งานด้วย เพราะบางครั้งอาจเสียเงินไปโดยเปล่าประโยชน์

4. ใครคือผู้ใช้งาน

สุดท้ายก็คือเรื่องของใครที่เป็นคนใช้งานเครื่องที่ว่านี้มากที่สุด เพื่อให้การใช้สอยมีประสิทธิภาพมากขึ้น เช่น เป็นแม่บ้านใช้งานควรต้องประกอบง่าย น้ำหนักเบาเพื่อการเคลื่อนย้ายสะดวก หรือคุณผู้ชายใช้งานบ่อย ใช้หลายชั่วโมงก็ต้องเลือกเครื่องที่มีเครื่องปั๊มน้ำตั้งเลยไม่ต้องยกเข้า – ออก หรือต้องใช้สายฉีดแรง ๆ มีความยาวเพียงพอ ฯลฯ

มาถึงตรงนี้เราก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่าทุก ๆ คนจะเกิดความเข้าใจในการเลือกซื้อเครื่องฉีดน้ำใช้งานมากขึ้น ทั้งนี้ คุณควรพิจารณาดูเรื่องการรับประกัน หรือการดูแลหลังการขายด้วย เพื่อสร้างความมั่นใจในการใช้บริการมากขึ้น เผื่อว่าเครื่องมีปัญหา หรือเครื่องชำรุดต้องรับการซ่อมแซมก็จะได้มีการดูแลที่รวดเร็ว ราบรื่นมากที่สุด และไม่เกิดปัญหาซ้ำซ้อนได้
#207


ก่อนที่จะเลือกซื้อผลิตภัณฑ์กันยุงทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็น สเปรย์กันยุง หรือยาจุด หรือจริง ๆ รวมถึงแมลงต่าง ๆ แล้วนั้น ควรพิจารณาถึงคุณสมบัติที่เหมาะสมด้วย เพื่อให้การนำมาใช้งานจัดการยุง แมลงต่าง ๆ อย่างมีประสิทธิภาพ ว่าแต่จะต้องมีคุณสมบัติอะไรบ้างนั้น เชื่อว่าหลายคนอยากรู้แล้ว และไม่รอช้าที่จะพาไปศึกษาอย่างหมดเปลือก

คุณสมบัติของสเปรย์กันยุง ยาจุด ที่ควรรู้เพื่อการนำมาใช้

1. มีสารสกัดธรรมชาติเป็นส่วนประกอบ

อย่างแรกเพื่อความปลอดภัยไม่มากก็น้อยในเรื่องของส่วนประกอบของผลิตภัณฑ์ควรเป็นสารสกัดจากธรรมชาติ อย่างตะไคร้หอม หรืออื่น ๆ มีความสามารถในการจัดการแมลงสาบ ยุง มดได้อย่างดี มีความปลอดภัยขั้นสุด ไม่เป็นอันตรายต่อผู้ใช้งานเอง

2. มีกลิ่นที่ไม่ฉุนมาก

เป็นอีกคุณสมบัติที่ควรมีอย่างที่สุดเลยก็คือเรื่องของกลิ่นที่เมื่อเราฉีด หรือใช้ยาจุดกันยุงไปแล้ว ต้องไม่ทำให้เกิดกลิ่นฉุนมากเกินไป ควรเป็นกลิ่นหอมเรื่อย ๆ ที่ไม่แสบจมูกมาก เช่น กลิ่นเลม่อน กลิ่นลาเวนเดอร์ ฯลฯ ไม่เป็นอันตรายต่อโพรงจมูกไปได้

3. หากเป็นหัวสเปรย์ควรกดฉีดง่าย

หากเป็นการเลือกใช้เป็นในส่วนของสเปรย์กำจัดยุง หรือสเปรย์กำจัดแมลงร่วมด้วยก็ตาม การใช้งานในส่วนของหัวฉีดควรกดง่าย ไม่พุ่งกระจายมากเกินไป ฉีดได้เร็ว แรง ในระยะที่ออกไกลได้ สามารถจัดการยุง หรือแมลงต่าง ๆ ได้อย่างแม่นยำ เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพการกำจัดที่รวดเร็ว

4. หากเป็นยาจุดควรจุดติดง่าย แยกขดง่าย

และถ้าหากเป็นในส่วนของยาจุดด้วยแล้วนั้นก็ควรจะเป็นการจุดที่ติดได้ง่าย ไม่ต้องเอาไฟไปลนนานมาก สามารถปกป้องได้ยาวนานต่อเนื่อง หรือบางยี่ห้อก็เป็นรุ่นควันน้อยก็มี ก็จะไม่ฟุ้งมาก หายใจสะดวกขึ้น ที่สำคัญการแยกขดควรทำได้ง่าย ไม่ติดกันเกินไปและไม่แตกหักได้ง่าย ๆ ด้วย ใช้งานได้สะดวกขั้นสุด

5. มีพลังปกป้องยาวนานดี

สุดท้ายก็คือเรื่องของพลังการปกป้องที่ควรเป็นไปได้อย่างยาวนาน อย่างน้อย ๆ ก็ 24 ชม. หรือบางยี่ห้อยาวนานถึง 48 ชม. ก็มี ไม่จำเป็นต้องฉีดพ่น หรือจุดยากันยุงทิ้งไว้ทุกวันทั้งวันเลยด้วย ไม่ทำให้เราเสียเวลาใช้งาน รวมถึงลดความเสี่ยงไฟลุกไหม้ไปอีก

กระนั้นในส่วนของการใช้งานสเปรย์กันยุง แมลง หรือจะเป็นแบบยาจุดขดกันยุงก็ตาม ควรศึกษาข้อควรระวังต่าง ๆ ให้ดีด้วย เพื่อลดความเสี่ยงใช้งานผิดประเภท หรือมีพฤติกรรมความเสี่ยงอื่น ทำให้ต้องเกิดปัญหาตามมาได้ แต่ละยี่ห้อ แต่ละประเภทก็จะมีทั้งขนาด และราคาที่ต่างกัน แนะนำว่าให้อ่านข้อมูลอย่างละเอียดก่อนซื้ออีกครั้งด้วย
#208


ปัจจุบันเมื่อพูดถึงลำโพงแล้ว ที่กำลังเป็นที่นิยมสูงมากก็คงไม่หนีพ้นแบบพกพา ซึ่งเชื่อว่ามีหลาย ๆ คนกำลังมอง ๆ อยู่ แต่กระนั้นการที่จะเลือกให้คุ้มค่าที่สุดบางคนอาจจะไม่เคยรู้มาก่อน ไม่รอช้าที่จะพาไปศึกษาทำความรู้จัก เพื่อการเลือกซื้อที่ตอบโจทย์ต่อตนเองและการใช้งาน

5 เทคนิคการเลือกซื้อลำโพงแบบพกพาให้คุ้มค่า

1. คุณภาพเสียง

เป็นการเลือกที่เราควรต้องดูก่อนเลยโดยที่เรื่องคุณภาพเสียงต้องมั่นใจเลยว่ามีเสียงออกมาได้อย่างดี ดูว่าลำโพงรุ่นนั้น ๆ มีเสียงเป็นอย่างไร บางรุ่นก็มีเสียงกลาง บางรุ่นเสียงแหลม เสียงเบามีลักษณะเป็นอย่างไร เสียงดังโดยรวมเป็นอย่างไร อาจจะต้องลองฟังจากเครื่องโชว์ก่อนก็ได้

2. การออกแบบ รูปลักษณ์

โดยที่ปัจจุบันมีการผลิตมาเพื่อแข่งขันกันเลยเชียวเพราะยิ่งมีการออกแบบ รูปลักษณ์ที่โดดเด่น สีสันดูโฉบเฉี่ยว เพื่อสร้างความน่าสนใจให้เราได้นำไปใช้แล้วมีหลายคนสนใจอยากเข้าหา แล้วยิ่งมีเสียงดีก็ทำให้คุณได้เครื่องมีคุณภาพมากขึ้น

3. น้ำหนักเบา พกพาง่าย

ลำโพงบลูทูธที่น่าสนใจควรค่าต่อการซื้อก็ควรต้องน้ำหนักเบามากยิ่งดี โดยที่ในเมื่อเราอยากพกพาไปไหนมาไหนก็ต้องคล่องตัวมาก ๆ ซึ่งรูปทรงก็ควรจะต้องเล็กด้วย ยิ่งช่วยเพิ่มความสะดวกสบายมากขึ้นกว่าเดิม ซึ่งก็จะสัมพันธ์กับข้อออกแบบ รูปลักษณ์ด้วย

4. ฟังก์ชันการใช้งาน อุปกรณ์รองรับ

เป็นอีกสิ่งที่ควรค่าต่อการศึกษามาก ๆ เพราะจะช่วยให้เข้าถึงการใช้งานที่ดีมากขึ้นได้ ควรเลือกให้เหมาะสมกับการใช้งานของตัวเองด้วย ไม่ว่าจะเป็นช่องเสียบ AUX, Flash Drive, SD Card มีปุ่มเพิ่มลดเสียงให้ มีไมโครโฟนเพื่อคุยมือถือ มีการเปิด/ปิดด้วยรีโมท ฯลฯ รวมถึงอุปกรณ์เสริมต่าง ๆ ที่แต่ละรุ่นก็จะมีแตกต่างกันออกไป ควรพิจารณาเลือกให้ดีด้วย

5. งบประมาณ ราคาสินค้า

ถือเป็นอีกสิ่งที่มองข้ามไปไม่ได้เลยจริง ๆ กับเรื่องของงบประมาณ ราคาสินค้าลำโพงบลูทูธพกพาที่เราต้องการ เริ่มต้นคือพิจารณาก่อนเลยว่ามีงบที่ตัวเองเท่าไหร่ แล้วจะเลือกซื้อสินค้าได้ในราคากี่บาท แล้วมีฟังก์ชัน มีความคุ้มค่าอะไรให้บ้าง อย่าเลือกสินค้าที่ราคาถูกเกินไปเพราะบางทีอาจใช้งานได้ไม่ยาวนานด้วยคุณภาพของสินค้าที่ต่ำเกินไป

นอกจากนี้ การที่เราจะเลือกซื้อลำโพงแบบพกพาได้สักเครื่องก็ควรเลือกร้านที่มีการรับประกันด้วย เพราะถือเป็นอีกสิ่งที่ช่วยให้เรามั่นใจในการใช้บริการ น่าเชื่อถือ ด้วยความที่หากเกิดปัญหาขัดข้อง เครื่องชำรุดก็ยังมีประกันช่วยดูแล หรือบางทีถ้ายังอยู่ในสัญญาก็ได้เครื่องใหม่ทันทีด้วย สร้างความอุ่นใจได้ไม่น้อย
#209


หากจะเอ่ยถึงวัสดุหลักที่ใช้ทำฝ้าเพดาน ฝาผนังต่าง ๆ แล้ว ปฏิเสธไม่ได้ว่า ยิปซั่มแผ่น (Gypsum) – สมาร์ทบอร์ด มักถูกนึกถึงมากที่สุด แต่ถึงแม้ทั้งคู่จะดูคล้ายกัน แต่จริง ๆ แล้วก็มีความต่างที่หลากหลายแง่มุมการนำไปใช้มาก และหากคุณจำเป็นจะต้องใช้งานทั้ง 2 อย่างแล้วนั้น จำเป็นต้องรู้ความต่างทั้งคุณสมบัติ พื้นที่ใช้สอย และการติดตั้งกันหน่อย

ยิปซั่ม VS สมาร์ทบอร์ด ความแตกต่างหลากหลายแง่มุม

1. ด้านคุณสมบัติ

แผ่น Gypsum : จะมีลักษณะเป็นส่วนผสมของแร่ Gypsum ที่นำมาขึ้นเป็นแผ่น แล้วใช้กระดาษเหนียวประกบทับอัดแน่นทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ทำให้ผิวเรียบเนียนสม่ำเสมอกันหมด มีน้ำหนักเบา แต่ก็แข็งแรงทนทาน มีหลากหลายชนิดให้เลือกไม่ว่าจะเป็นรุ่นมาตรฐาน รุ่นกันร้อน รุ่นทนชื้น รุ่นทนไฟ รุ่นลดเสียงสะท้อน ฯลฯ

สมาร์ทบอร์ด :จะเป็นหลักษณะของแผ่นไฟเบอร์ซีเมนต์ที่มีคุณภาพสูงด้วยส่วนประกอบหลายอย่างที่มีประสิทธิภาพ จากนั้นก็จะนำไปผ่านกระบวนการอบไอน้ำแรงดันสูง ทำให้ไม่แตกหักได้ง่าย มีความแข็งแรงทนทาน ทนได้ทั้งฝนและแดด ปลวกไม่กัดกินได้ ซึ่งก็มีหลายรุ่นให้เราเลือกด้วยเช่นกัน

2. พื้นที่ใช้สอย

แผ่น Gypsum : จะเหมาะกับงานฝ้าเพดาน หรือผนังภายในมากกว่า ด้วยความที่เรียบสวยงาม ดูแล้วเป็นระเบียบ ฝุ่นน้อย ใช้คัตเตอร์ตัดแต่งได้ง่าย เจาะก็ง่ายอีก ไม่ว่าจะเป็นฝ้าเพดาน ผนังห้องนอน ฝ้าหลุม ฝ้าเล่นระดับในห้องนั่งเล่น ฝ้าชายคา ฯลฯ

แผ่นสมาร์ทบอร์ด : จะเหมาะกับพื้นที่ที่ต้องการความทนทานพิเศษ มีส่วนช่วยรับแรงกระแทกได้ดี ไม่แตกหักง่าย ทนทาต่อฝนและแดด ปลวกไม่สามารถกัดกินได้ นำไปใช้งานได้ทั้งภายในและภายนอกบ้าน ไม่ว่าจะเป็นฝ้าภายนอก ผนังตกแต่งภายนอก ฝ้าชายคา ฯลฯ

3. การติดตั้ง

แผ่นยิปซั่ม Gypsum : จะเหมาะกับการติดตั้งแบบฉาบเรียบ โดยเริ่มตั้งแต่การติดตั้งโครงคร่าว และตัวแผ่นที่ต้องการ จากนั้นก็ทำการฉาบรอยต่อของแผ่นได้เลย รวมถึงตรงส่วนหัวสกรูก็ต้องฉาบปูนเฉพาะของแผ่น Gypsum โดยเฉพาะ จากนั้นก็เอาสีน้ำอะคริลิกทาทับสร้างความสวยงาม

สมาร์ทบอร์ด : สามารถติดตั้งได้ในรูปแบบเส้นร่อง โดยอุดร่องรอยต่อที่มีระหว่างแผ่นด้วยกาวยาแนวโพลียูริเทน ส่วนเก็บหัวสกรูก็ใช้เป็นกาวยาแนวอะคริลิก แล้วทาสีอะคริลิกทับอีกที หรือจะเอากระเบื้อง เอาแผ่นลามิเนตมาปิดผิววัสดุอีกทีก็ได้ หรือจะติดตั้งรูปแบบฉาบเรียบก็ได้เช่นกัน

และทั้งหมดนี้ก็เป็นความต่างในหลายแง่มุมของการใช้งานยิปซั่มแผ่น และสมาร์ทบอร์ด โดยที่มีความต่างตั้งแต่เรื่องคุณสมบัติ พื้นที่ใช้สอย การติดตั้ง ที่หากเราจะใช้กับที่ไหนสักแห่งก็ควรเลือกให้ตอบโจทย์การใช้งานที่สุด เพื่อให้มีอายุการใช้งานยืนยาว ไม่เกิดปัญหาต่าง ๆ ตามมาภายหลัง
#210


เชื่อว่ามีหลายคนที่จำเป็นต้องใช้งานถุงมือยาง หรือแบบพลาสติกก็ตาม และด้วยความที่ถุงมือนั้นมีให้เราเลือกได้หลากหลายชนิดมาก ทั้งยังมีที่เป็นแบบมีแป้ง – ไม่มีแป้งด้วย ซึ่งวันนี้เราได้รวบรวมข้อมูลที่น่าสนใจมาอธิบายสร้างความเข้าใจมากขึ้น เพื่อการซื้อใช้งานที่ตอบโจทย์ต่อตนเองและการงานมากที่สุด ซึ่งจะเป็นอย่างไร จะแตกต่างกันมากขนาดไหน ไปดูกันเลยดีกว่า

ความแตกต่างของถุงมือยาง VS พลาสติกที่ควรรู้

1. ถุงมือจากยางสังเคราะห์ไนไตรล์

อย่างแรกก็คือเป็นประเภทของถุงมือแบบยางที่สังเคราะห์ด้วยไนไตรล์โดยที่ได้รับความนิยมอย่างมาก ทนทานต่อสารเคมี ทำให้ได้รับความนิยมในการใช้งานอย่างมาก มีหลากหลายสีสันให้เลือกด้วย แต่ก็จะมีความยืดหยุ่นที่ไม่มากเท่าถุงมือแบบยางธรรมชาติ

2. ถุงมือ PVC

ถุงมือ PVC เป็นการใช้ยางสังเคราะห์ Polyvinyl chloride ที่ช่วยป้องกันอันตรายจากการสัมผัสสารเคมีได้โดยตรง ลักษณะจะมีความเป็นเหมือนกระจกฝ้า ใสแต่ก็กึ่งขุ่นด้วย และด้วยความที่สารไขมันจะทำให้พลาสติกยืด หรือนิ่มละลายออกมาได้ก็เลยไม่เหมาะกับการใช้สัมผัสอาหารประเภทไขมัน

3. ถุงมือจากยางธรรมชาติ

หากสังเกตตามลักษณะทางกายภาพก็จะสังเกตได้ว่ามีสีขาวครีม ยืดหยุ่นได้ดี เมื่อใส่มือแล้วจะมีความกระชับมาก ตามร้านขายยาก็มีให้เราเลือกซื้อได้เลย ส่วนใหญ่มักนำมาใช้ในทางการแพทย์ ทั้งนี้ก็จะมีให้เลือกทั้งที่เป็นแบบมีแป้ง และไม่มีแป้ง

- แบบมีแป้ง : จะช่วยปกป้องมือจากสารเคมีได้ ส่วนใหญ่เป็นแป้งข้าวโพด หากมือมีเหงื่อมากก็ยังทำงานได้คล่องแคล่วอยู่ เพราะแป้งจะดูดซับความชื้นในขณะที่เราสวมใส่ได้ดี ช่วยให้หล่อลื่นดี
- แบบไม่มีแป้ง : ความหนาของถุงมือจะบางกว่าแบบมีแป้ง รู้สึกเหมือนเราไม่ได้ใส่ถุงมือ มีความกระชับแนบชิดดี มีความเหนียว ทนทาน ไม่ทำให้เกิดอาการระคายเคืองได้ง่าย

4. ถุงมือแบบพลาสติก PE

หรือที่เราคุ้นเคยกันดีกับถุงมือพลาสติกที่ใช้เวลาย้อมผม ที่จะเป็นการทำจากพลาสติกเนื้อดีเลย จับแล้วไม่เปื้อนติดมาก ส่วนมากใช้ในการจับอาหารมัน หรืออาหารที่มีรสเปรี้ยวได้ เช่น ร้านข้าวขาหมู ร้านข้าวมันไก่ ร้านก๋วยเตี๋ยว ฯลฯ

เป็นอย่างไรกันบ้างกับประเภทถุงมือยาง ถุงมือแบบพลาสติกที่มีให้เราได้เลือกใช้งาน แต่ละประเภทน่าสนใจอย่างมากเลยทีเดียว แต่การซื้อมาใช้ก็ควรให้เหมาะสมที่สุดด้วย เพื่อการที่งานที่ตอบโจทย์มากที่สุด หวังว่าต่อจากนี้การซื้อถุงมือใช้งานของทุกคนจะผ่านไปได้ราบรื่น